ระงับฉีดวัคซีน 'แอสตร้าเซนเนก้า' ชะลอแผนฟื้นศก.เอเชีย
วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรง หลังจากสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ามีอย่างน้อย 13 ประเทศตัดสินใจเลื่อนหรือระงับการใช้วัคซีนตัวนี้ออกไปก่อน หลังจากมีประชาชนในประเทศเดนมาร์กกิดปัญหาเรื่องลิ่มเลือดหลังจากได้รับวัคซีนดังกล่าว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเดนมาร์ก ประกาศระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ชั่วคราวเป็นเวลา 14 วัน ระหว่างที่กำลังตรวจสอบเรื่องนี้
แมกนัส ฮิวนิกเก้ รัฐมนตรีสาธารณสุขเดนมาร์ก กล่าวว่า ทางการกำลังตรวจสอบว่าวัคซีนโควิดของแอสตร้าเซนเนก้าทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงในลักษณะของลิ่มเลือดหรือไม่ และว่าคำสั่งระงับครั้งนี้เป็นเพียงการระวังป้องกัน ยังไม่มีการสรุปใด ๆ ว่า ลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่
ประเทศที่ตัดสินใจระงับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าไว้ก่อน (ณ วันที่ 17 มี.ค.) ได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ สวีเดน ลัตเวีย เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ บัลกาเรีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และไทย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของสำนักงานยาแห่งยุโรป (อีเอ็มเอ) และองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ยืนยันว่ายังไม่พบหลักฐานว่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าคือสาเหตุของอาการลิ่มเลือดอุดตัน โดยทั้งสององค์กรแนะนำให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของยี่ห้อนี้ต่อไป
ในส่วนของบริษัทผู้พัฒนาวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า กล่าวว่า ได้ศึกษาข้อมูลผู้ได้รับวัคซีนเเล้ว 17 ล้านคนในยุโรปอย่างละเอียด และบริษัทพบว่า มีกรณีการเกิดลิ่มเลือดในผู้รับวัคซีนทั้งหมด 37 ราย และไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่า วัคซีนทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อกลุ่มประชากร ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุ หรือเพศใดในประเทศต่าง ๆ และเมื่อพิจารณาเกี่ยวกับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ยุโรปก็ไม่พบข้อบ่งชี้ถึงปัญหาเกล็ดเลือดที่เกิดจากวัคซีนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหภาพยุโรปยังคงวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดอย่างครบถ้วน และระบุด้วยว่า ขณะที่การตรวจสอบดำเนินไป วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า มีข้อดีมากกว่าความเป็นไปได้ว่าจะเกิดผลข้างเคียง
ขณะที่สตีฟ คอชเรน นักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจากมูดีส์ อินเวสต์เมนท์ เซอร์วิส เตือนว่า การที่หลายประเทศระงับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าอาจทำให้แผนพลิกฟื้นเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียชะลอตัวลง
“การระงับใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าอาจเพิ่มความเสี่ยงแก่เอเชียที่จะดำเนินบทบาทนำในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของภูมิภาคและของโลก” คอชแรน กล่าวและว่า เรื่องนี้อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อการค้าโลกและถือเป็นข่าวร้ายสำหรับเอเชียที่หลายประเทศพึ่งพารายได้จากการทำกิจกรรมการค้า
“การระงับการฉีดวัคซีนในช่วงที่โรคโควิด-19 ยังคงระบาดถือเป็นความเสี่ยง และเป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่สำคัญ เรายังคงต้องการเห็นการแจกจ่ายวัคซีนให้ทั่วถึงทุกประเทศในปีนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาขยายตัวเหมือนเดิม” นักเศรษฐศาสตร์จากมูดีส์ ให้ความเห็น
คอชแรน ยังมีความเห็นว่า หากการฉีดวัคซีนในยุโรปล่าช้าออกไป สิ่งที่จะเกิดตามมาคือการล็อกดาวน์เศรษฐกิจในยุโรป ซึ่งอาจทำให้แผนพลิกฟื้นเศรษฐกิจโลกพลอยชะลอตัวลงตามไปด้วย ขณะที่ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้เร็วกว่าหลายประเทศในยุโรปและสหรัฐ