SC-NOBLE ชี้ยอดขายบ้าน-คอนโดปีนี้โมเมนตัมดี ลุยผุดโครงการใหม่
“เอสซี แอสเสท” เผย ยอดขายไตรมาส1/64แตะ 5 พันล้าน โต 200% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เหตุ ยอดขายแนวราบโตต่อเนื่อง มั่นใจปีนี้ยอดขายตามเป้าโต 2 หมื่นล้าน “โนเบิล” เล็งจับมือ บีทีเอส ลุยเปิดคอนโดมิเนียม
นายอรรถพล สฤษฏิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายของบริษัทในไตรมาส 1 ปีนี้ น่าจะทำได้ 5,000 ล้านบาท เติบโตเกือบ 200 % เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากปัจจัยหลักจากยอดขายโครงการแนวราบที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะ โควิด -19 ระบาดทำให้พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไป โดยมีความต้องการบ้านเดียวหรือทาวน์โฮมมากขึ้น
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 20,000 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน และรายได้ที่ 19,000 ล้านบาท ยังใกล้เคียงปีก่อน สาเหตุจากต้องรอการบริหารจัดการโควิด -19ในภาพรวม หากสถานการณ์ดีขึ้นจะเร่งการขาย ซึ่งในปีนี้เปิดโครงการใหม่ จำนวน 11 โครงการ มูลค่ารวม 17,000 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านแนวราบถึง 8 โครงการ มูลค่า 9,000 ล้านบาท
ภายใต้แผนธุรกิจปี 2564-2565 วางเป้ารุกแนวราบทุกระดับราคา ด้วยงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท เพื่อจัดหาที่ดินมากกว่า 30 แปลง มูลค่าโครงการมากกว่า 35,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีเงินสดและวงเงินพร้อมเบิกมากกว่า 10,000 ล้านบาท มุ่งบริหารรักษาสัดส่วนหนี้ต่อทุนไม่เกิน 1.58 เท่า จากปัจจุบันทำได้ดีอยู่ที่ 1.38 เท่า และจะพัฒนาสินค้าให้พร้อมที่เป็นบ้านทุกระดับราคาฟังก์ชันสำหรับทุกคน
ส่วนรายได้ปีนี้ตั้งไว้ที่ 11,000 ล้านบาท เติบโตทรงตัวใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้ 10,895 ล้านบาท เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ หรือ ไตรมาส 3-4 เป็นหลัก ซึ่งจะทำให้เห็นการเติบโตก้าวกระโดดในปี 2565-2566 มากกว่า
นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดี เวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้ คาดว่ายังมีโมเมนตัมที่ดีจากโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวใยปีนี้ รับอานิสงส์จากการคาดการณ์ว่าจะเปิดประเทศในช่วงไตรมาส 3-4 ปีนี้ ซึ่งจะส่งผลดีเนื่องจากโดยปกติเรามีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติพอสมควร รวมถึงดอกเบี้ยยังต่ำเป็นปัจจัยบวกต่อการตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงนี้ และผู้ประกอบการเริ่มทยอยขายโครงการที่ค้างอยู่มากแล้ว ทำให้การแข่งขันราคาลดลง น่าจะรักษาระดับการทำกำไรที่ดีในปีนี้ได้
สำหรับปีนี้บริษัทมีการร่วมลงทุนกับกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)หรือ BTSมากขึ้น ในการร่วมลงทุนโครงการคอนโดมิเนียม ส่วนยอดขายปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 16,000 ล้านบาท เติบโต 142% จากปีก่อน มาจากการเปิดโครงการใหม่ประมาณ 11 โครงการ ใน 9 โลเคชั่นในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมมูลค่า 45,000 ล้านบาท