'ม็อบ24มีนา' ลงถนนปิดแยก 'ราชประสงค์' แล้ว
"ม็อบ24มีนา" ลงถนนปิดแยกราชประสงค์ ด้าน "ตำรวจ" จัดกำลัง 18 กองร้อย-รถฉีดน้ำ เตรียมพร้อมแล้ว
วันที่ 24 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ จัดโดยกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมว่า ตั้งแต่เวลา 16.30 น. กลุ่มมวลชนได้ทยอยเดินทางมารวมตัวฝั่งห้างสรรสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์แล้ว ซึ่งการชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์วันนี้ถือเป็นครั้งที่ 5 ตั้งแต่มีการชุมนุมที่นี่ครั้งแรกเมื่อ 15 ต.ค.2563 โดยกลุ่มเยาวชนปลดแอก
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมครั้งนี้มีกลุ่มมวลชนได้แสดงออกถึงข้อเรียกร้องที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1.ปล่อยเพื่อนเรา 2.เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ 3.ยกเลิกมาตรา 112 4.นายกรัฐมนตรีลาออก และ 5.หยุดใช้ความรุนแรงกับประชาชน นอกจากนี้พบว่าภายในพื้นที่การชุมนุมมีการแจกใบปลิวรณรงค์การชุมนุมโดยใช้แนวทางสันติวิธี
กระทั่งเวลา 16.53 น. กลุ่มมวลชนพร้อมติดเครื่องขยายเสียงได้ขยายพื้นที่รวมตัวมาบนผิวถนนแยกราชประสงค์ ถนนราชดำริ ฝั่งหน้าห้างสรรสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์แล้ว และเริ่มมีการติดตั้งเวทีปราศรัยหันหน้าไปทางประตูน้ำ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเข้าชี้แจงกับกลุ่มมวลชน ห้ามจัดการชุมนุม เนื่องจากกระทำความผิดกฎหมาย ห้ามชุมนุม และ พ.ร.บ.จราจร แต่กลุ่มมวลชนได้ตะโกนไล่ให้ออกไปจากพื้นที่
เวลา 17.25 น. นายชพงษ์ แกดำ แกนนำศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD) หนึ่งในแนวร่วมกลุ่มคณะราษฎร 2563 ได้เริ่มการปราศรัยถึงแนวทางการกลับมาชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์อีกครั้ง และพร้อมต่อสู้ด้วยแนวทางสันติวิธี
จากนั้นนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตกฎหมายเพื่อประชาชน หรือ "ไอลอว์" ได้ขึ้นเวทีปราศรัยโดยเรียกร้องให้มีการประกันตัวแกนนำที่ถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำ โดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มราษฎร ได้อดข้าวเป็นวันที่ 10 แล้ว และนายพริษฐ์มีคดีตามมาตรา 112 มากที่สุดถึง 18 คดี
ขณะเดียวกันบนสกายวอล์กตั้งแต่แยกเฉลิมเผ่า จนถึงเกษรพลาซ่ามีการปิดเส้นทางไม่ให้มีการใช้งาน ส่วนบริเวณด้านล่าง กลุ่มมวลชนได้นำภาพแกนนำที่ถูกคุมขัง อาทิ นายอานนท์ นำภา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นำมาแปะทับป้ายข้อความ "แยกราชประสงค์" ด้วย
นอกจากนี้ภายในบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ได้วางกำลังอย่างหน่าแน่นในพื้นที่ พร้อมนำรถฉีดน้ำแรงดังสูงหรือ "จีโน่" จำนวน 2 คันมาจอดเตรียมความพร้อมที่จุดหลังประตูฝั่งห้างสรรสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และโรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงเตรียมรถควบคุมผู้ต้องหา รถเครื่องขยายเสียง และเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำนวน 18 กองร้อย หรือประมาณ 2,700 นาย
สำหรับกิจกรรมในวันนี้มีการเปิดตัวแกนนำผู้ปราศรัยหลัก 3 คน ประกอบด้วย น.ส.เบนจา อะปัญ จากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ "มายด์" จากกลุ่ม ROOT และนายอรรถพล บัวพัฒน์ จากกลุ่มราษฎรโขง ชี มูล
ทั้งนี้ ในเวลา 18.35 น.ส.เบนจา ได้ขึ้นเวทีปราศรัยโดยได้อ่านรายชื่อเพื่อนแกนนำที่ถูกคุมขังในเรือนจำ พร้อมประกาศว่าการชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้กลับมาอีกครั้ง หากมีการจับกุมแกนนำเพิ่มเติมก็เคลื่อนไหวต่อไป โดยมวลชนได้ร่วมตะโกน "ปล่อยเพื่อนเรา"
จากนั้นเวลา 19.00 น. นายอรรถพลได้ปราศรัยเช่นกัน โดยได้อ่านจากข้อความในกระดาษที่เขียวไว้ยาวเกือบ 2 เมตร วิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และใช้ผลประโยชน์ในการต่อรองตำแหน่งมาบริหารประเทศ ซึ่งการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ใหม่มีแต่การแต่งตั้งแต่พรรคพวก โดยอยู่บนพื้นฐานการแบ่งผลประโยชน์ทั้งสิ้น
นายอรรถพล ปราศรัยด้วยว่า สำหรับการเขียนรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ ไม่มีทางออกให้ประเทศทุกคนอาจคิดว่าการต่อสู้ 7-8 เดือนที่ผ่านมาไม่อะไรเกิดขึ้น แต่หากก่อนหน้านี้ไม่มีการออกมาเรียกร้องจะมีการผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ทำให้วันนี้เขาเห็นว่า เราอ่อนกำลังจึงฉวยโอกาสล้มร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่วันนี้เรากลับมาแล้ว จึงขอถามไปยังพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยว่า สิ่งที่หาเสียงไว้ในการแก้รัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร หรือจะให้เราไปทวงถามหน้าที่ทำการพรรค
ต่อมาเวลา 20.30 น. น.ส.ภัสราวลี ได้ขึ้นเวทีปราศรัยว่า การปราศรัยวันนี้อาจเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากในวันพรุ่งนี้(25 มี.ค.) ต้องเข้ารับฟังคำสั่งฟ้องของอัยการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการชุมนุมตั้งแต่ช่วง 19.00 น.ที่ผ่านมา มีกลุ่มมวลชนทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยมีท้ายแถวอยู่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ ส่วนในพื้นที่ชุมนุมมีการตัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ กลุ่ม "ศิลปะปลดแอก" ได้นำบล็อคภาพหน้าของแกนนำที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ มาใช้พ่นสเปรย์ลงบนผ้าขาวเป็นที่ระลึกให้กับผู้ชุมนุม รวมถึงการเขียนป้ายผ้าเรียกร้องจุดยืนและกดดันรัฐบาล