มารู้จักวิธีดูแลร่างกาย เพราะมนุษย์ก็เหมือนเครื่องจักร ใช้ไปนานๆก็เสื่อม
การดูแลสุขภาพในยุคดิจิทัล ผู้คนมีทางเลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะการแพทย์สมัยใหม่ แพทย์ทางเลือก หรือทั้งสองอย่างควบคู่ ที่เรียกว่า "การบูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวม" ที่ผสมผสานศาสตร์ตะวันออกแบบดั้งเดิมเข้ากับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่จากโลกตะวันตก
ซึ่งแนวโน้มการดูแลสุขภาพจากนี้สืบไปเบื้องหน้า จะเน้นไปที่การป้องกันควบคู่กับการรักษา มีการออกแบบดูแลสุขภาพ โดยทีมแพทย์และนักบำบัดผู้เชี่ยวชาญ วิเคราะห์ข้อมูลเป็นรายบุคคลผสมผสานด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย อย่างเป็นขั้นเป็นตอนก่อน "ออกแบบทรีทเม้นต์" ที่เหมาะสมตามหลักของศาสตร์แบบองค์รวมตรงตามความต้องการรายบุคคล ไม่ว่าจะเป็น การดูแลสุขภาวะทางเดินอาหาร (Gut Health) การเสริมภูมิคุ้มกัน (Immunity Booster) การดูแลน้ำหนัก (Weight Management) หรือการผ่อนคลายความเครียด (De-Stress)
การมีศูนย์บูรณาการสุขภาพแบบผสมผสาน ที่จะช่วยทำให้ทุกคนเข้าใจร่างกายและ ความต้องการของตนเองได้เป็นอย่างดีเกิดขึ้น ในประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Fully Integrative Wellness & Medical Retreat” อย่างโครงการ รักษ (รัก-ษะ) ที่นำเอาวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์สมัยใหม่ที่ได้มาตรฐานสากลมาใช้ร่วมกับศาสตร์การแพทย์แบบองค์รวม
โดยเน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันจะช่วยให้ “ชีวิตร่วมสมัย” ของผู้คนเป็นไปอย่างสุขสมบูรณ์มากขึ้น ที่สำคัญจะเป็นแหล่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจากโซนยุโรปเดินทางเที่ยวไทยมากขึ้นสร้างรายได้เข้าประเทศได้อีกทางหนึ่ง นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย
“ดุษฎี ตันเจริญ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงไลฟ์ จำกัด (บริษัทในเครือ) ผู้พัฒนาโครงการ รักษ (รัก-ษะ) อธิบายว่าสถานที่แห่งนี้จะดูแลสุขภาพในรูปแบบใหม่แบบองค์รวม โดยผสมผสานวิทยาการ ทางการแพทย์ ที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจร่างกายและ ความต้องการของตนเองมากขึ้น สามารถวางแผนการใช้ชีวิตและดูแลสุขภาพได้อย่างดีที่สุด เพราะในโลกปัจจุบันต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อดูแลตนเอง การมีสุขภาพที่ดีอย่างแท้จริงจะช่วยให้รับมือสิ่งต่างๆ ในอนาคตได้ดี
ขั้นตอนแรกผู้มารับบริการต้องตอบแบบสอบถามออนไลน์เกี่ยวกับ “สุขภาพ” เพื่อเป็นการให้ข้อมูล จากนั้นเมื่อผู้เข้ารับบริการเดินทางมาถึงโครงการ "รักษ(รัก-ษะ) จะได้พบกับ “ที่ปรึกษา” ด้านสุขภาพ เพื่อให้คำแนะนำในเบื้องต้นก่อนที่จะไปพบกับ “แพทย์” ที่เชี่ยวชาญ ที่จะออกแบบการทำ “ทรีทเม้นต์” ดูแลสุขภาพต่างๆตามความเหมาะสมเป็นรายบุคคล
“การดูแลสุขภาพของแต่ละคนจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำเพื่อให้เข้าใจสุขภาพของตนเองอย่างแท้จริงเสียก่อน และทราบถึงจุดที่ควรปรับปรุง โดยใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ไม่ว่าจะเป็น การตรวจพันธุกรรม ฮอร์โมน หรือ ไมโครนิวเทรียนท์ ไปจนถึงการตรวจโอกาสการเกิดมะเร็ง ข้อมูล ที่ได้นี้จะนำไปรวบรวมเพื่อให้แพทย์ผู้ดูแล เทรนเนอร์ นักกายภาพบำบัด และนักโภชนาการ ออกแบบโปรแกรมดูแลสุขภาพได้อย่างตรงจุด เพื่อป้องกันโรค ชะลอวัย ช่วยเรื่องการนอนหลับ พัฒนาศักยภาพของร่างกาย และดูแลระบบการย่อยและระบบสมอง รวมทั้งใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ไอวี นิวเทรียนท์ ไครโออินฟราเรดซาวน่า การบำบัดด้วยแสง และพลาสมาเธอราพี”
“ดุษฎี” เล่าว่าศาสตร์แห่งการบำบัดแบบองค์รวมของที่นี่ จะผสมหลากหลายแขนง ทั้งการแพทย์แผนจีน การแพทย์แผนไทย อารุยเวท ที่สำคัญมีศูนย์ออกกำลังกายเชิงการแพทย์ ที่มีทั้งนักกายภาพบำบัดและนักวิทยาศาสตร์การกีฬาผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ร่างกาย ด้วยอุปกรณ์และทีมงานจะใช้เทคโนโลยีนี้ประกอบกับศาสตร์แห่งการแพทย์และวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายที่อยู่บนพื้นฐานของการแก้ไขปัญหา เพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายและฝึกกล้ามเนื้อและประสาทของแต่ละบุคคล
นอกจากนี้ การดูแลสุขภาพไม่ใช่จะมีเพียงการแพทย์สมัยใหม่หรือแพทย์ทางเลือกเท่านั้น ทว่าอาหารที่นำมารับประทานก็สามารถช่วยต้านการอักเสบ ได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ “อาหาร” ที่มาจากห้องอาหารอู่น้ำ (Unam), อู่ข้าว (Ukhao) ที่นักโภชนาการเสิร์ฟตามโปรแกรมรายบุคคล
ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม รักษ (รัก-ษะ) ตั้งอยู่ในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า จ.สมุทรปราการเน้นใช้ธรรมชาติบำบัดพื้นที่สีเขียวด้วยต้นไม้ใหญ่มากกว่า 4,000 ต้น เปิดบริการเฟสแรก27 วิลล่าแบบ 1 วัน 1 คืน 3 วัน จนถึง 14 วัน ตามความต้องการด้านสุขภาพที่เหมาะกับแต่ละบุคคล
ตั้งเป้าให้เป็น World-Class Medical Wellness Destination โดยมีศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ รพ.บำรุงราษฎร์ มาช่วยดูแลสุขภาพและเวชศาสตร์ชะลอวัย และไมเนอร์ฯดูแลด้าน Hospitality ร่วมกันพัฒนายกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Medical and Wellness Tourism หนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะเดียวกันให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชมในพื้นที่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีควบคู่ไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปมีส่วนร่วมกับทางชุมชนในการส่งเสริมให้คนในชุมชนมีความรู้ความเข้าใจด้านการดูแลสุขภาพ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ การเข้าไปช่วยพัฒนาเพิ่มพื้นที่สีเขียว การรักษาสิ่งแวดล้อม การพัฒนาถ่ายทอดองค์ความรู้แก่คนในพื้นที่ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างให้เกิดความเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainability) พร้อมกับดูแลและฟื้นฟูระบบนิเวศน์ของบางกระเจ้าที่เริ่มเสื่อมโทรมตามกาลเวลา มีการปลูกต้นไม้และดอกไม้นับพันต้น ฟื้นฟูคุณภาพดิน เก็บขยะ รวมไปถึงการสนับสนุนด้านการเกษตรแก่ชุมชนรอบข้างด้วย