'เอ็นจีโอกะเหรี่ยง' เรียกร้องหยุดส่งเครื่องบินทิ้งบอมบ์หมู่บ้าน
ราษฎรกะเหรี่ยงต้องหนีตาย-บางส่วนลี้ภัยเข้าไทย หลังทหารเมียนมาส่งบินบอมบ์ต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนกะเหรี่ยงตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาออกหนังสือ ขอให้ทหารเมียนมาหยุดปฎิบัติการทางอากาศ จี้นานาชาติดำเนินคดีหัวหน้าคณะรัฐประหารต่อศาลโลก
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 64 ราษฎรกะเหรี่ยง ในเขตอิทธิพลของกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ยังคงหนีออกจากหมู่บ้านหลายหมู่บ้าน ในพื้นที่เขตอิทธิพลของกองพลน้อย ที่ 5 ของกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู.) จังหวัดผาอ่าง รัฐกะเหรี่ยง ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่กองทัพเมียนมาปฏิบัติการทางอากาศใช้เครื่องบินรบทิ้งระเบิดลงฐานที่มั่นของเคเอ็นยู. และหมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยง ด้านเหนือของอำเภอสบเมย และตรงข้ามพื้นที่ตำบลแม่สามแลบ จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยช่วงเวลาบ่ายถึงค่ำ ซึ่งเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2564 ราษฎรกะเหรี่ยงกว่า 4,000 คน ไปอยู่ในการควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ไทยในพื้นที่ตำบลแม่สามแลบ โดยเป็นการควบคุมไว้ชั่วคราว
ขณะที่ราษฎรกะเหรี่ยง อีกจำนวนมากอาศัยอยู่ในป่าเขตไทยริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน และริมฝั่งแม่น้ำสาละวินเขตประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา รวมทั้งหมด เกือบ 5,000 คน ส่วนการสู้รบ ทหารเคเอ็นยู.ได้เข้าไปโจมตีฐานทหารเมียนมาในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน
ล่าสุด มีราษฎรกะเหรี่ยง ได้เสียชีวิต 1 คน เป็นเด็ก และได้รับบาดเจ็บ 1 คน รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมดประมาณ 5 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก จากการปฏิบัติการทางอากาศตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2564 ซึ่งชาวบ้านกะเหรี่ยงต้องช่วยนำผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากฝั่งเมียนมา
ด้าน กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนกะเหรี่ยงตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาออกหนังสือ เรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมาที่ไม่ชอบธรรม หยุดปฏิบัติการทางอากาศ เพราะมีผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นประชาชน ไม่ใช่ทหาร รวมทั้งให้ทหารเมียนมาในพื้นที่ริมฝั่งสาละวินกลับที่ตั้งจังหวัดผาปูนทั้งหมด ให้ทุกฝ่ายให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามด้วย นอกจากนี้ขอให้นานาชาติดำเนินคดีกับพลเอกมินอ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหาร โดยนำขึ้นพิจารณาคดีต่อศาลโลก