'แอมเนสตี้' ฉะ ตร.เข้าสลายหมู่บ้านทะลุฟ้า จี้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
"แอมเนสตี้" จี้รัฐยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉะ ตร.เข้าสลายหมู่บ้านทะลุฟ้า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
วันที่ 30 มี.ค. แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แถลงการณ์ระบุว่า กรณีสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้าข้างทำเนียบรัฐบาลแนะทางการต้องยุติการปราบปรามผู้เห็นต่างอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย สืบเนื่องจากการสลายการชุมนุมโดยสงบหน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ และการที่ตำรวจจับกุมผู้ชุมนุมโดยสงบอย่างน้อย 99 คนโดยพลการ ซึ่งในนั้นมีเด็กหกคน พระสองรูป และผู้สูงวัย เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าละเมิดข้อห้ามในการชุมนุมระหว่างประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เผยว่า การจับกลุ่มและดำเนินคดีต่อผู้ชุมนุมโดยสงบจำนวนมากเมื่อวานนี้ ถือเป็นการปราบปรามอย่างเป็นระบบอีกครั้งหนึ่งต่อสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ การใช้กฎหมายอย่างมิชอบเช่นนี้ตอกย้ำข้อกังวลว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเพียงข้ออ้างแบบเหมารวม และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ถูกใช้เพื่อย่ำยีความเห็นที่แตกต่าง โดยอ้างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดังนั้นจึงต้องมีการยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยทันที
การจับกุม การควบคุมตัวและการดำเนินคดีหลายครั้งโดยใช้อำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มักพุ่งเป้าไปที่นักปกป้องสิทธิมนุษยชน นักกิจกรรม และผู้ชุมนุม ทั้งนี้เพื่อปิดปากผู้เห็นต่างจากรัฐ การจับกุมโดยพลการและมิชอบด้วยกฎหมายตอกย้ำว่า ตำรวจไม่ใส่ใจต่อสิทธิของบุคคลที่จะได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม และเป็นไปตามกระบวนการอันควรของกฎหมาย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุม และให้ยกเลิกข้อหาทั้งหมดโดยทันที
“รัฐบาลไทยต้องเคารพสิทธิเด็กที่จะสื่อข้อความและแสดงความเห็นของตน การควบคุมตัวเด็กต้องนำมาใช้เป็นมาตรการขั้นสุดท้ายโดยต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กของเด็กเป็นหลัก” นางปิยนุช ระบุ