โบรกปรับเป้ากำไร COM7 โดดเด่นกว่าตลาด
“คอมเซเว่น”ราคาหุ้นพุ่ง 8.37 % มูลค่าซื้อขายคึกคัก โบรก ชี้ นักลงทุนหันเข้ามาซื้อหลังโบรกเกอร์แห่ปรับเป้าหมาย กำไร -ราคาเหมาะสมปีนี้ พร้อมคาดกำไรไตรมาสแรกปีนี้ โต 68% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
วานนี้(30 มี.ค.) ราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกสินค้าไอทีปรับตัวขึ้นแรง นำโดย บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ราคาปิดที่ 64.75 บาท เพิ่มขึ้น 8.37% มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด เป็นอันดับสองที่ 2,054,803.00 บาท ขณะเดียวกันหุ้นตัวอื่นในกลุ่มปรับขึ้นเช่นกัน รับอานิสงส์ความต้องการสินค้าแบรนด์ Apple และการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี 4 เป็น 5จี
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร COM7 เปิดเผยว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นน่าจะมาจากบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ดีขึ้น จึงทำให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัท ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือมีดีลใหม่อะไรเข้ามาบริษัทยังคงตั้งเป้ายอดขายปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อน และขยายสาขาเพิ่มเป็น 1,000 สาขา จากสิ้นปี 2563 ที่ 911 สาขา ใช้งบลงทุนในการขยายสาขา 300 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1 ปีนี้คาดว่าเป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งยอดขายสินค้าไอทีและสินค้าเทคโนโลยี ขณะที่การขายไอโฟน 12 ยังขายดีอยู่มาก นอกจากนี้ ยังมีโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่เริ่มเปิดตัวออกมาเรื่อยๆ เช่น ซัมซุง และอีกหลายแบรนด์ยอดขายของสาขาใหม่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก สถานการณ์โควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบ ขณะที่ไตรมาส 2 นี้ก็จะมีสินค้าใหม่มาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
นางสาวศิริลักษณ์ คนไว นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายโบรกมีการปรับประมาณการณ์ผลประกอบการและราคาเป้าหมายของ COM7ดีขึ้น ส่งผลต่อเซนทริเม้นท์เชิงบวกต่อราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น หรือยังเป็นหุ้นที่มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเป้าหมายเฉลี่ยของBloombergConsensusl สูงสุดอยู่ที่ 72 บาท และปัจจุบันราคาเฉลี่ยในตลาดอยู่ที่ 50-72 บาท
ขณะที่เราได้ปรับคำแนะนำ เป็นซื้อ จากเดิม ถือ ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมใหม่ที่ 66.25 บาท จากเดิมที่ 51.50 บาท จากคาดกำไรไตรมาสแรกปี 2564 ที่ 438 ล้านบาท เติบโต68% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากความต้องการสินเค้าแบรนด์ Apple และอุปกรณ์ที่สูงต่อเนื่อง แม้ว่าจากปีก่อนปิดสาขาในช่วงปลายไตรมาส 1 ปี 2563 แต่ปีนี้ยังได้รับผลบวกจากไอโฟน 12 ที่วางขายล่าช้าในไตรมาส 4 ปี 2563 ทำให้ยังมียอดขายต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาสนี้ และได้รับแรงหนุนจากการทำงานและเรียนที่บ้าน จากการแพร่ระบาดโควิด -19 ระลอก 2
ส่วนหากเทียบไตรมาสก่อนหน้า ลดลง13% เนื่องจากปกติไตรมาส 4 ของปีเป็นช่วงไฮซีซั่น รวมทั้งไตรมาสที่ผ่านมายังได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการช้อปดีมีคืนของภาครัฐ ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายสินค้า
แต่อย่างไรก็ตามการเป็นผู้นำในตลาดค้าปลีกสินค้าไอที ที่จะมีการเติบโตไปพร้อมกับการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี 4จี เป็น 5จีซึ่งจะสร้างความต้องการโทรศัพท์เครื่องที่รวมถึงสินค้าเกี่ยวเนื่องไปอีกอย่างน้อย 2 ปี โดยเราคาดการณ์ผลประกอบการของ COM7 จะเติบโตเฉลี่ย 23%ต่อปี(ในปี 2564-2566) ด้วยกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 2,091 ล้านบาท เติบโต 41% ,ปี 2565 อยู่ที่ 2,616 ล้านบาท เติบโต 25% และปี 2566 อยู่ที่ 3,159 ล้านบาทเติบโต 16% ถือว่า สูงกว่าอุตสาหกรรม เติบโต 9%ต่อปี ดังนั้นส่วนการตลาดของ COM7 เพิ่มขึ้นมาเป็น 20-30% ตามเป้าหมายบริษัที่สร้างความแข็งแกร่ง