'กลุ่มOCTDEM'ร้อง'ศาลฎีกา'ให้ประกันผู้ต้องหาทางการเมืองไม่ว่าจะข้อหาใด

'กลุ่มOCTDEM'ร้อง'ศาลฎีกา'ให้ประกันผู้ต้องหาทางการเมืองไม่ว่าจะข้อหาใด

"อดีตคนเดือนตุลา" เปิดตัว "กลุ่มOCTDEM" ก่อนร่วมเดินจาก "ธรรมศาสตร์" ไป "ศาลฎีกา" ร้องขอให้ประกันผู้ต้องหาทางการเมือง ไม่ว่าจะข้อหาใด ให้โอกาสสู้คดีอย่างเต็มที่ หากยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด

อดีตคนเดือนตุลา นำโดย นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายเกรียงกมล เลาหไพโรจน์ นายธเนศอาภรณ์สุวรรณ นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายนายสมศักดิ์ ปริศนานันนทกุล นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี และ นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ นัดทำกิจกรรมอ่านแถลงการณ์พร้อมเปิดตัวกลุ่ม OCTDEM หรือ Octoberists for Democracy และร่วมเดินจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไปยังศาลฏีกา เพื่อไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้ประกันตัวผู้ต้องหาทางการเมือง โดยยึดมั่นในหลักนิติธรรมนิติรัฐอันเป็นสากล


โดยศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายสุเทพ สุริยะมงคล กล่าวเปิดตัวกลุ่ม OCTDEM คนเดือนตุลาเพื่อประชาธิปไตยว่า เป็นกลุ่มคนที่เคยเรียกร้องประชาธิปไตยในช่วง 6 ตุลาคม 2519 และถูกตราหน้าว่า เป็นพวกหัวรุนแรง เป็นพวกป่วนบ้าน กวนเมือง กลุ่มคนเดือนตุลา ถูกขัดขวาง ต่อต้าน ดักทำร้าย จนถึงขั้นถูกทำให้ตายในหลายครั้ง หลายคราวในช่วงที่ได้เคลื่อนไหวเพื่อสังคมแสนงาม จนถึงวันนี้ 45 ปีประวัติศาสตร์ อำมหิตกำลังป่วนกลับมาอีกครั้งรอที่จะสร้างบาดแผลใหม่ เมื่อเยาวชนผู้มีอุดมการณ์ของพรุ่งนี้ได้รวมตัวกันบอกๆกับสังคมว่าสังคมงดงามของปวงชนที่พวกเขาอยากเห็นและมีชีวิตอยู่เป็นเช่นไรแต่กลับถูกจับกุมคุมขังด้วยอำนาจรัฐและข้ออ้างทางกฎหมายมีการจัดชุดควบคุมฝูงชน แก๊สน้ำตาฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าสลายการชุมนุมที่กระทำอย่างสงบสันติปราศจากอาวุธ ทั้งยังเลยถูกแจ้งข้อหาร้ายแรงถูกจับกุมคุมขังเรือนจำเสมือนผู้ต้องโทษที่ผ่านการตัดสินความลึกเสร็จเด็ดขาดแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสังคมไทยไม่ให้ที่ยืนสำหรับคนคิดต่างเลย วันนี้คณะทำงานเห็นว่าควรเปิดโอกาสให้เยาวชนกลุ่มดังกล่าวได้รับความเป็นธรรม จึงร่างหนังสือถึงผู้มีอำนาจ เพื่อทวงความยุติธรรม


ขณะที่นายสิตา การย์เกรียงไกร กล่าวว่า หลังจากนี้ไม่ต้องการให้การถูกคุมขังเข็นฆ่าสังหารหวนกลับมาอีก ประวัติศาสตร์บาดแผลที่โหดร้าย ป่าเถือน เช่น เหตุการณ์ 6ตุลา 2519 เกิดขึ้นครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ไม่ควรปล่อยให้มันเกิดขึ้นมาอีก สังคมนี้ต้องสรุปบทเรียน ไม่กระทำความผิดซ้ำซาก ควรจะสรุปบทเรียนได้แล้วว่าการแก้ปัญหาด้วยวิธีใช้ความรุนแรงไม่สามารถหยุด สยบความเห็นต่าง พูดต่าง ทำต่างได้เลย ไม่สามารถหยุดความขัดแย้งใดๆได้แม้แต่ครั้งเดียวมีแต่การรับฟังร่วมกันแก้ไขด้วยนิติรัฐ นิติธรรมเท่านั้นสังคมจึงจะดำรงอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบและสันติ

นายธเนศ ได้อ่านแถลงการณ์ของกลุ่มถึงศาลยุติธรรม โดยสรุปใจความได้ว่า ตามที่บรรดานักเรียน นิสิตนักศึกษา เยาวชนและประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ได้เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ฝ่ายรัฐได้ใช้อำนาจปราบปราม จับกุม คุมขัง พวกเขาไว้ในเรือนจำ ปรากฏว่าศาลยุติธรรมไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว (ประกันตัว)  ซึ่งการไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ แต่เชื่อว่า ศาลยุติธรรมย่อมต้องเข้าใจ และทราบดีว่า หลักสำคัญในการปฏิบัติต่อผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญาทุกคดีนั้น คือการที่จะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า เขาเหล่านั้นยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่และจะปฏิบัติต่อเขาเสมือนหนึ่งว่าเป็นผู้ที่ถูกพิพากษาถึงที่สุดว่ามีความผิดแล้วไม่ได้ ทั้งนี้เหตุผลของศาลยุติธรรมที่ปฏิเสธการขอปล่อยตัวชั่วคราว ไม่สอดคล้องกับหลักการต่างๆ เพราะผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดยังไม่ได้ถูกศาลตัดสินถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำความผิด ย่อมต้องได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์


ดังนั้นจึงขอเรียกร้องอย่างตรงไปตรงมาต่อศาลยุติธรรมว่า ต้องให้โอกาสกลุ่มที่ถูกจับกุม ในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่โดยเปิดเผย และมีโอกาสแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองอย่างเต็มที่ โดยอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาคดี อันเป็นสิทธิโดยสมบูรณ์ของพวกเขาที่มีอยู่ตามหลักกฎหมายยุติธรรม


ด้านนายจาตุรนต์ ระบุว่า พวกตนเป็นผู้ถูกกระทำในอดีต ดังนั้นจึงอยากใช้ประสบการณ์นี้ให้เป็นประโยชน์ และสะท้อนถึงผู้มีอำนาจว่าการใช้กฎหมายปราบปรามมีแต่จะเกิดความเสียหายจึงต้องการเสนอประสบการณ์ให้อยู่กันได้อย่างสันติ เพื่อร่วมสร้างสังคมไปด้วยกัน เพราะเห็นการคุกคามทำร้ายและใช้กฎหมายไม่เป็นธรรมขอให้หยุดทำร้ายและยึดหลักนิติธรรม จึงทำหนังสื่อถึงศาลฏีกาขอให้พิจารณาปล่อยตัวผู้ต้องหา เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายระหว่างประเทศ


พร้อมย้ำว่าทางกลุ่มฯ ไม่ได้มาเข้าร่วมกระบวนการเคลื่อนไหวของนักศึกษา แต่จะขอเสนอประสบการณ์เพื่อหาทางออกจากความขัดแย้งของสังคม ส่วนสิ่งที่อยากนำเสนอนักศึกษานั้นเวลานี้คงยังไม่มีอะไรแนะนำ เพราะเห็นว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม  จึงต้องการให้เขาต่อสู้คดีได้โดยอิสระ


ทั้งนี้จุดยืนของกลุ่มต้องการให้ รัฐบาลออกไปหรือไม่ ตนเห็นว่ามีคนจำนวนมาก เห็นถึงความล้มเหลวดังนั้นเมื่อเราทำงาน เป็นกลุ่ม จึงยังไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้ร่วมกัน แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ถ้าไปถาม ก็คิดเหมือนกัน ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ยังไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องนี้

สำหรับข้อเสนอการปฏิรูปสถาบันของกลุ่ม นักศึกษานั้น นายจาตุรนต์ ให้ความเห็นว่า กลุ่มเราวัตถุประสงค์ชัดเจน ในเรื่องหลักนิติธรรมเฉพาะหน้าคือการประกันตัวผู้ต้องหา ที่มีคดี .112 อยู่ และไม่ว่าจะถูกข้อหาใด ถ้ายังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ต้องได้สิทธิ์ประกันตัว เรายังไม่ได้ไปที่เนื้อหาหรือข้อเรียกร้องของนักศึกษาเพราะพูดในหลักใหญ่คือหลักนิติธรรม


อย่างไรก็ตามกิจกรรมในวันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย ไม่ได้เดินทางมาร่วมด้วย แต่ส่วนตัวได้โพสข้อความลงบนเฟซบุ๊คโดยมีใจความ "ขอสนับสนุนข้อเรียกร้องให้สิทธิประกันตัวกับผู้ถูกกล่าวหา คดีการเมือง และให้ได้รับสิทธิในการพิจารณาคดี อย่างอิสระและเที่ยงธรรม"