'อนุทิน' ยัน ประชาชนพื้นที่สีแดง เดินทางได้ 'ไม่ต้องกักตัว'

ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกุลรองนายกฯและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการจัดโซนในพื้นที่ต่างๆ หลังพบการติดเชื้อโควิด-19คัสเตอร์ใหม่ว่า ได้มีการจัดโซนมีหลายๆ สีตั้งแต่สีแดง สีม่วง และใช้มาตรการต่างๆ ตามสีที่เราวางไว้ เมื่อวานนี้ (5 เมษายน) ทางศบค.ชุดเล็กได้ประชุมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ซึ่งคงจะไม่มีการล็อกดาวน์หรือกักตัว หากไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ที่มีการติดเชื้อเป็นจำนวนมากอาจต้องเฝ้าระวัง ก็ใช้ชีวิตตามปกติ ทั้งนี้การติดเชื้อช่วงหลังก็เกิดจากสถานบันเทิง ผับ บาร์ ก็ต้องระวัง

เมื่อถามว่าใกล้จะถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็มีความกังวลว่าเมื่อกลับมาเป็นสีแดงแล้วจะเป็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า สงกรานต์จริงๆ แล้วประเพณีก็ให้กลับไปขอพรบุพการี ผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ใช่กลับไปสนุกเฮฮา กินเหล้า หรือไปเที่ยวในที่ๆ มีคนหมู่มาก ซึ่งในช่วงนี้มีการระบาดโควิด-19 ค่อนข้างเยอะ ก็พยายามหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีการชุมนุม ที่มีคนหมู่มาก

เมื่อถามต่อว่าแม้จะมีการประกาศเป็นพื้นที่สีแดงแล้วแต่คนก็สบายใจแล้วว่ายังสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ นายอนุทิน กล่าวว่า การเดินทางเป็นเรื่องปกติ พื้นที่สีแดงคือร้านอาหารเปิดได้ถึงเวลา 21.00 น. และห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามให้มีการจัดการแสดง มีดนตรี มีการเต้นรำกัน ทุกอย่างต้องปิดก่อนเวลา 21.00 น. และเป็นไปตามมาตรการที่กำหนดเพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนส่วนใหญ่ ทุกคนต้องช่วยกัน ซึ่งหลังสงกรานต์สิ่งที่เห็นก็คือการติดเชื้อลดลงและอุบัติเหตุก็ลดน้อยลงด้วย เราไม่ได้สูญเสียอะไร หากสถานการณ์กลับมาปกติ กระทรวงสาธารณสุขก็จะรีบผ่อนคลายมาตรการให้เร็วที่สุด

เมื่อถามว่า หากคนในกรุงเทพฯ และพื้นที่เสี่ยงเดินทางไปไหนก็ต้องกักตัวหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่มี เรากักตัวเฉพาะคนที่ติดเชื้อและคนที่มีความเสี่ยงสูง”

ซึ่งนายอนุทินยังได้พูดแซวกับสื่อมวลชนด้วยว่า “วันเกิดภูมิใจไทย มาถามเรื่องโควิด”

นอกจากนี้นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ก็ต้องช่วยกัน อย่าเพิ่งรักสนุกเกินไป เราก็เห็นว่ามันมาจากกลุ่มไหน ซึ่งบางคนแยกภาชนะไม่ใช้ร่วมกัน แต่การใช้น้ำแข็งถังเดียวกันก็ติดได้ พอแก้วต่อมาเชื้อมันก็มาด้วย อย่างที่ทองหล่อ มีคน 240 คน ติดแล้วสัก 148 คนก็ไม่ได้แล้ว

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่ามีส.ส.และรัฐมนตรีไปเกี่ยวข้องด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปสนใจ รัฐมนตรีไม่เกี่ยว ใครก็ไม่สมควรไปเที่ยวในสถานที่ที่มีความเสี่ยงทั้งนั้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขก็ต้องตามข่าวและต้องตามมาตรวจเท่านั้นเอง เมื่อรู้อยู่แล้วว่าตรงไหนเป็นจุดเสี่ยงก็ต้องพยายามเลี่ยงในช่วงนี้ หากถึงเดือนมิถุนายน วัคซีนมาและฉีดกันถ้วนหน้า ก็ค่อยกลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม