เอ็นอาร์เอฟ-ล็อกซเล่ย์-จีทีเอช บูม ‘เทอร์พีน’ มาแรง! แซงกัญชง-กัญชาในสินค้า
ระหว่างรอ อย.เคาะปริมาณกัญชงกัญชา ให้ใส่ในสินค้าได้ บิ๊กคอร์ป "เอ็นอาร์เอฟ-ล็อกซเล่ย์-จีทีเอช" ควงกันปลุก "เทอร์พีน" แจ้งเกิดในตลาด
ระหว่างที่ภาคธุรกิจไทยกำลังรอขุมทรัพย์ใหม่ที่คาดว่าจะใหญ่เป็นพืชเศรษฐกิจมูลค่า “แสนล้านบาท” จากการนำสารทีเอชซี และซีบีดีใน “กัญชา-กัญชง” ไปอยู่ในสินค้าต่างๆ ซึ่งต้องให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เคาะปริมาณที่จะใช้ของกินของใช้ อีกหนึ่งเทรนด์ที่ผู้ประกอบการพยายาม “แจ้งเกิด” ไว้ก่อน คือการนำ “เทอร์พีน”ที่อยู่ในพืชกัญชามาใช้สร้างคุณประโยชน์หรือฟังก์ชั่นนอลให้กับสินค้า
เทรนด์การใช้เทอร์พีนในสินค้าเป็นเรื่องใหม่ของไทย แต่ตลาดโลกกลับบูมไม่น้อย เพราะเทอร์พีนถูกผลิตให้เป็น “วัตถุดิบ” ที่ให้กลิ่นเฉพาะ หากผสมกับสินค้ารวมถึงสมุนไพรไทยที่มีเอกลักษณ์ ช่วยสร้างจุดขายได้
แดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นอาร์เอฟ ฉายภาพตลาดเทอร์พีนทั่วโลกมีมูลค่า 2-3 แสนล้านดอลลาร์ เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% กลายเป็น 1 ใน 5 เทรนด์ที่มาแรง โดยเฉพาะตลาดยุโรป และสหรัฐ ส่วนเอเชียยังไม่บูมนัก แต่แนวโน้มดังกล่าวทำให้บริษัทต้องการเป็นรายแรกๆ ที่่บุกเบิกตลาดเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดเทอร์พีน
บริษัทจึงผนึกพันธมิตร “ทรู เทอร์พีน”(True Terpenes) ยักษ์ใหญ่เทอร์พีนของโลกที่มูลค่าบริษัทเกือบแสนล้านบาท ประเดิมรับสิทธิ์นำเทอร์พีนสูตรต่างๆที่มีราว 30,000 สูตร มาทำตลาดในไทย โดยให้ “ล็อกซเล่ย์” เป็นผู้จัดจำหน่าย เนื่องจากมีลูกค้าสินค้าบริการต่างๆและเชี่ยวชาญการจัดจำหน่ายอย่างยาวนาน
ขณะเดียวกันปลายเดือนเม.ย.นี้ ส่งบริษัทในเครืออย่าง โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล เฮลท์ ไปเซ็นสัญญาร่วมทุนกับทรู เทอร์พีน เพื่อต่อยอดความร่วมมือในการทำตลาดทั่วเอเชีย
“บริษัทมีเป้าหมายผลักดันให้เทอร์พีน เป็นหนึ่งใน 3 เซ็กเมนต์หลักของบริษัท เพราะเทรนด์การเติบโตของเทอร์พีนในตลาดโลกเติบโตดี ซึ่งกลยุทธ์การทำตลาดนอกจากได้ไลเซ่นส์ทำตลาดเทอร์พีนในไทย บริษัทจะสร้างแบรนด์ใหม่ และผลิตสินค้า 3-4 รายการ ตอบสนองผู้บริโภค หากผลตอบรับดีมียอดขายหลักร้อยล้านบาท จะลงทุนราว 50 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตวัตถุดิบเทอร์พีนจากปัจจุบันจ้างผลิต”
จากแผนดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้รายได้บริษัทเติบโตแตะ 3,000 ล้านบาท จากเดิมคาดว่าจะเห็นใน 2-3 ปี
สุรช ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือกับเอ็นอาร์เอฟ และจีทีเอช เพื่อจัดจำหน่ายวัตถุดิบเทอร์พีน 2 ส่วน โดยการจัดจำหน่าย เทอร์พีน เฟลเวอร์ ให้ลูกค้าแบบธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) สำหรับกลุ่มลูกค้าโรงงานผู้ผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของเทอร์พีน เฟลเวอร์ เช่น เทอร์พีน วอเตอร์ (Terpene Water) ผ่านช่องทางจัดจำหน่ายของบริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด ที่มีเครือข่ายกว่า 4,000 ร้านค้าทั่วประเทศ
นอกจากนี้ การจัดจำหน่ายวัตถุดิบเทอร์พีนเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัท ซึ่งมีลูกค้าสินค้าอุปโภคบริโภคหลายราย ช่วยต่อยอดสู่การพัฒนาสินค้าสูตรใหม่ๆที่มีส่วนผสมเทอร์พีนตอบสนองความต้องการผู้บริโภค
ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดโอกาสให้คู่ค้าแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มชั้นนำกว่า 30 ราย เข้ามาฟังข้อมูลเกี่ยวกับเทอร์พีน เบื้องต้นมีลูกค้าสนใจนำไปผลิตสินค้าใหม่ 6-7 รายการ เพื่อทำตลาดปีนี้
“เราได้ปรับการทำงานหารือกับผู้ผลิตสินค้าหรือซัพพลายเออร์อย่างใกล้ชิดมากขึ้น เมื่อเราขายวัตถุดิบให้ลูกค้านำไปผลิตสินค้าใหม่ๆ ช่วยให้มีจำนวนรายการสินค้าหรือเอสเคยูเพิ่ม ซึ่งนอกจากสินค้าใหม่ที่มีส่วนผสมเทอร์พีน ในอนาคตจะรับจัดจำหน่ายสินค้าที่มีส่วนผสมกัญชา กัญชงด้วย”
จุลภาส เครือโสภณ ผู้ก่อตั้งบริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล เฮลท์ หรือจีทีเอช ผู้ประกอบการกัญชงครบวงจร กล่าวว่า หากพิจารณาระยะเวลาที่รัฐจะอนุญาตให้นำสารทีเอชซี ซีบีดีจากกัญชงมาใช้เป็นส่วนผสมของสินค้าคาดว่าต้องรอประมาณ 12 เดือน ห้วงเวลานี้เทอร์พีนถือคลื่นลูกใหม่ที่จะเติบโตไปพร้อมกับกัญชากัญชง
ทั้งนี้ การนำเทอร์พีนไปผสมในสินค้าจะช่วยทำให้กลิ่นมีเอกลักษณ์โดดเด่นยิ่งขึ้น โดยผสมได้ทั้งสินค้าดูแลผิวพรรณหรือสกินแคร์ อาหารและเครื่องดื่ม แม้ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการแต่ให้คุณประโยชน์ เช่น ช่วยให้ผ่อนคลาย นอนหลับสนิท บรรเทาความเจ็บปวด เป็นต้น
“กระแสกัญชงมาแรงในไทย แต่ตอนนี้วัตถุดิบยังไม่มาต้องรออีก 1 ปี ขณะที่เทอร์พีนคือสิ่งที่ทำให้กลิ่นของสินค้ามีความโดดเด่น ทำให้ผู้บริโภคนึกถึง เทอร์พีนไม่ได้มีคุณค่าทางโภชนาการ แต่มีคุณประโยชน์หรือฟังก์ชั่น เหมือนกับเครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอลดริ้งค์ดื่มแล้วให้พลังงาน”