เทศกาล ‘สงกรานต์’ ยกการ์ดให้สูงสุด
แม้รัฐบาลยืนยันไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ขั้นสูงสุด เพื่อรับมือโควิด-19 ระลอกใหม่ ขณะที่ความหวังอย่างวัคซีนโควิด รัฐก็ไม่สามารถบริหารจัดการได้ทันท่วงที ทำให้เทศกาลสงกรานต์ที่เปิดให้เดินทางข้ามจังหวัดได้นั้น ประชาชนจำเป็นระวังตัวเองและยกการ์ดระดับสูงสุด
แม้รัฐบาลจะยืนยันไม่ใช้มาตรการ “ล็อกดาวน์” ขั้นสูงสุด เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่มีต้นตอมาจากสถานบันเทิง แต่ก็ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่า เราจะสามารถหยุดการระบาดได้อยู่หมัด แม้จะมีวัคซีนหลายสิบล้านโดสมากองอยู่ในประเทศไทยแล้วก็ตาม ตราบใดที่ทุกภาคส่วนยังละเลย ฝ่าฝืน ไร้จิตสำนึก แม้แต่ผู้บริหารบ้านเมืองก็ยังการ์ดตก ไร้ความรับผิดชอบ ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดกระจายไปทั่ว มิหนำซ้ำ รัฐยังล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงกับการบริหารจัดการวัคซีน ไม่สามารถทำให้การกระจายวัคซีนเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่านี้ได้ ทั้งที่ควรเป็นเรื่องเร่งด่วนกว่าเรื่องใดๆ
โชคร้ายซ้ำเข้าไปอีก เมื่อผลตรวจเชื้อโควิดที่แพร่ขณะนี้ เป็นเชื้อที่กลายพันธุ์มาจากประเทศอังกฤษ มีฤทธิ์เดชแพร่ได้รวดเร็วหลายเท่าตัว ซึ่งยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า เชื้อที่กลายพันธุ์นี้เข้ามาในประเทศเราได้อย่างไร ขณะที่แผนบริหารจัดการวัคซีนที่เป็น “ทางรอดเดียว” แต่รัฐก็ไม่สามารถบริหารจัดการได้ทันท่วงที ภาคเอกชนก็ร่ำๆ อยากยื่นมือเข้ามาช่วย แต่รัฐก็ไม่มีความชัดเจน แบบลงลึกในระดับปฏิบัติการว่า จะเอาอย่างไรกันแน่ ที่สำคัญรัฐควรเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนว่า “วัคซีน” ที่คนไทยจะได้ฉีดจริงๆ แล้ว เหมาะสม และเพียงพอต่อประชากรทั้งประเทศหรือไม่ เพราะการระบาดระลอกใหม่ บ่งชี้แล้วว่า ฉีดวัคซีนแล้วยังติดเชื้อได้อีก
แผน “เปิดประเทศ” ที่เราวาดกันไว้อย่างหรูหรา เลยยังเป็นภาพมัวๆ ทั้งที่เวลานี้ การฉีดวัคซีนควรครอบคลุมประชากรในประเทศได้ระดับหนึ่ง เพียงพอที่จะเริ่มเปิดประเทศอย่างเป็นระบบ และเรากำลังเข้าสู่ “เทศกาลสงกรานต์” ที่สร้างเม็ดเงินสะพัดในด้านการท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอย แต่พอเจอการระบาดระลอกใหม่ ที่ต้นเหตุเกิดจากความไม่รับผิดชอบ การ์ดตก แผนบริหารวัคซีนที่ล้มเหลว งานอีเวนท์ต่างๆ ช่วงเทศกาลต้องหยุด แน่นอนว่า ส่งผลต่อความหวังการเปิดประเทศที่คงไม่สามารถทำได้ในเร็วๆ นี้
เทศกาลสงกรานต์ที่กำลังมาถึง แม้รัฐจะเปิดให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ทุกคนต้องอยู่บนความไม่ประมาท ระวังตัวเอง ยกการ์ดระดับสูงสุดอยู่ตลอดเวลา เหมือนอย่างที่ ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เตือนว่า ให้คิดว่าทุกคนมีความเสี่ยงติดเชื้อ และระวังตัวเองไม่นำเชื้อไปติดคนอื่น งดไปสถานที่เสี่ยง ออกจากบ้านใส่หน้ากากตลอด ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างจากคนอื่น ส่วนใครที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ทำความเข้าใจใหม่ว่า วัคซีนไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อ 100% หลังฉีดวัคซีนเข็มแรกราว 2-3 สัปดาห์ จะมีภูมิคุ้มกัน 60-70% เมื่อฉีดครบ 2 เข็มภูมิคุ้มกันจะขึ้นราว 80% ก็ยังมีความเสี่ยงติดเชื้อได้ “สงกรานต์” นี้ทางรอดเดียว คือ “ยกการ์ดให้สูงสุดเข้าไว้”