LPH พร้อมนำเข้าวัคซีนทางเลือก ฉีดจริงไตรมาส 4 ปีนี้
โรงพยาบาลลาดพร้าว เผยแผนนำเข้าวัคซีนทางเลือกโควิด-19 คาดพร้อมฉีดเร็วสุดไตรมาส 4/64 หลังรัฐบาลไฟเขียว ยันจำนวนเตียง-น้ำยาตรวจเพียงพอ ประเมินรายได้ Q2 เติบโตไม่น้อยกว่า 20%
นายอังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน)หรือ LPH เปิดเผยว่า ภายหลังรัฐบาลเปิดทางให้โรงพยาบาลเอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือก โรงพยาบาลมีแผนนำเข้าวัคซีนจากบริษัทที่ภาครัฐยังไม่ได้นำเข้า โดยจะแจ้งรายละเอียดให้ประชาชนทราบอีกครั้ง และคาดว่าจะได้รับอย่างเร็วที่สุดในไตรมาส 4 ปี 2564 นี้ นอกจากนี้ LPH ได้สมัครและขอซื้อจากภาครัฐอีกส่วนหนึ่งจำนวน 20,000 โดส ซึ่งคาดว่าจะได้รับในช่วงครึ่งปีหลัง
ขณะที่สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่ ส่งผลให้มีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยเตียงที่สำรองไว้สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 60 เตียง ถูกใช้ไปแล้วกว่า 50 เตียง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสหรือให้ไปในพื้นที่เสี่ยงสูง เช่น พื้นที่ทองหล่อ เป็นต้น
แต่ทั้งนี้โรงพยาบาลยังมีความพร้อมรับผู้ป่วยที่มีความต้องการตรวจกาเชื้อโควิด-19 และหากต้องแอดมิทจะดำเนินการโอนย้ายไปโรงพยาบาลอื่นเป็นหลักเพื่อสำรองเตียงของโรงพยาบาลไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน รวมถึงมีการสำรองน้ำยาตรวจเชื้อไว้เพียงพอ โดยการระบาดรอบใหม่กระจุกอยู่ในคนหนุ่มสาวที่มีอาการไข้ขึ้นและสามารถรับประทานยาให้อาการดีขึ้นได้ หรือไม่ได้มีอาการรุนแรงเท่าการระบาดในผู้สูงอายุอย่างรอบเดิม
“ผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการรอบนี้ต้องอยู่ในครบ 10 วัน ซึ่งเราประเมินว่าช่วงสงกรานต์โรงพยาบาลจะยังรองรับผู้ป่วยใหม่ได้ ส่วนหลังสงกรานต์ล็อตแรกที่เข้าใช้บริการน่าจะย้ายออกไปได้ และจะสามารถรับผู้ป่วยใหม่ได้ต่อเนื่อง โดยเราคาดว่าสถานการณ์จะการติดเชื้อจะเริ่มซาลง เพราะคนที่เข้ามาตรวจตอนนี้พบเชื้อเป็นบวกประมาณ 5%” นายอังกูร กล่าว
นายอังกูร กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มผลประกอบการของ LPH คาดว่าไตรมาส 1 ปี 2564 จะเติบโตประมาณ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แม้เดือน ม.ค.จะได้รับปัจจัยกดดันจากโควิด-19 ระลอก 2 แต่เดือน มี.ค.เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อเทียบกับเดือน มี.ค.2563 ที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีความรุนแรงมาก
ส่วนไตรมาส 2 ปี 2564 คาดการณ์รายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% YoY ทั้งจากผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการเกี่ยวกับโควิด-19 และระบบป้องกันที่ดีส่งผลให้คนไข้ทั่วไปมีความมั่นใจเข้าใช้บริการมากขึ้น จากเดิมเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาล และคาดว่าในปี 2564 รายได้จะเติบโต 25% YoY จากการเริ่มฉีดวัคซีนในช่วงครึ่งปีหลัง การเติบโตของคนไข้ทั่วไป และการแอดมิทหมอใหม่ๆ ฝีมือดีเข้ามา โดยคาดว่ารายได้ผู้ป่วยประกันสังคมจะเติบโต 5% และผู้ป่วยทั่วไปเติบโต 25-30%