กรณี ‘น้านงค์’ เผลอกิน ‘น้ำยาล้างเครื่องเงิน’ เปิดวิธีปฐมพยาบาล เมื่อเผลอ ‘กินสารเคมี’

เกิดเรื่องด่วน สำหรับขวัญใจเสียงหัวเราะ “น้านงค์ เชิญยิ้ม” ตลกสายฉ่อย หนึ่งในผู้ดำเนินรายการหลักคุณพระช่วยร่วมกับ “น้าโย่ง เชิญยิ้ม” และ “น้าพวง เชิญยิ้ม” โดยเมื่อเวลา 11.00 น. โย่ง เชิญยิ้ม ได้โพสต์เฟสบุ๊คบัญชีส่วนตัวว่า 

ไอ้นงค์มึงต้องไม่เป็นอะไรนะ กูไม่อนุญาตให้มึงเป็นแบบนี้ มึงรีบตื่นขึ้นมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้ (ระหว่างพิมพ์มีน้ำตาซึมออกมา) #น้านงค์หยิบผิดเผลอดื่มน้ำยาล้างเครื่องเงิน

แฟนคลับ และคนวงการบันเทิง ต่างร่วมให้กำลังใจน้านงค์ ให้ปลอดภัยจากเหตุไม่คาดฝันนี้ 

การรับประทานสารพิษโดยไม่ตั้งใจ จากการสับสนกับอาหารนั้นเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง และกลายเป็นอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะกับเด็ก และผู้สูงอายุ ดังนั้นแล้วควรเก็บสารเคมีที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้อยู่ในที่ที่ปลอดภัย และเป็นสัดส่วนป้องกันการสับสน

แต่ถ้าเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" เปิดวิธีปฐมพยาบาลจากกรณีได้รับสารพิษเข้าร่างกาย เพื่อเป็นความรู้เบื้องต้นก่อนที่จะนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล 

   

• ประเมินการได้รับสารพิษ 

การได้รับสารพิษ เป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการปฐมพยาบาลที่รีบด่วน และเฉพาะเจาะจง ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องประเมินจำแนกให้ได้ว่าอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยนั้น ว่า เกิดจากสารพิษใด นอกจากประเมินอาการแล้ว ยังจำเป็นต้องสังเกตสภาพการณ์ สิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยร่วมด้วย

สมาคมส่งเสริมความปลอดภัย และอนามัยในการทำงาน ให้ข้อมูลว่า อาการของผู้ที่ได้รับสารพิษส่วนใหญ่ มีอาการคือ 

- การคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง น้ำลายฟูมปาก หรือมีรอยไหม้นอกบริเวณริมฝีปาก มีกลิ่นสารเคมีบริเวณปาก

- เพ้อ ชัก หมดสติ  มีอาการอัมพาตบางส่วนหรือทั่วไป  ขนาดช่องม่านตาผิดปกติ อาจหดหรือขยาย

- หายใจขัด หายใจลำบาก มีเสมหะมาก มีอาการเขียวปลายมือปลายเท้า  หรือบริเวณริมฝีปาก ลมหายใจมีกลิ่นสารเคมี ตัวเย็น  เหงื่อออกมาก  มีผื่นหรือจุดเลือดออกตามผิวหนัง

• วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น 

การปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับสารพิษ จำแนกตามวิถีทางที่ได้รับ  3  ทาง ดังนี้

- การปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับสารพิษทางปาก (ในกรณีของน้านงค์ เชิญยิ้ม)

- การปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับสารพิษทางการหายใจ

- การปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับสารพิษทางผิวหนัง

    

• การปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับสารพิษทางปาก

กรมแพทย์ทหารเรือ ให้ข้อมูลว่า ผู้ช่วยเหลือต้องทำการประเมินผู้ที่ได้รับสารพิษก่อน  แล้วจึงพิจารณาดำเนินการช่วยเหลือ  ดังนี้

- ทำให้สารพิษเจือจาง  ในกรณีรู้สึกตัวและไม่มีอาการชัก  โดยการดื่มน้ำชาซึ่งหาได้ง่าย แต่ถ้าได้นมจะดีกว่า เพราะว่าจะช่วยเจือจางสารพิษแล้ว ยังช่วยเคลือบและป้องกันอันตรายต่อเยื่อบุทางเดินอาหาร

- นำส่งโรงพยาบาล  เพื่อทำการล้างท้องเอาสารพิษออกจากกระเพาะอาหาร

- ทำให้ผู้ป่วยอาเจียน  เพื่อเอาสารพิษออกจากกระเพาะอาหาร ในกรณีที่ต้องใช้เวลานานในการนำส่งผู้ป่วย  เช่น  ใช้นิ้วล้วงคอ ใช้ไม้พันสำลีกวาดคอซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้ รู้สึกอยากขย้อน อยากอาเจียน

ข้อห้ามในการทำให้ ผู้ป่วยอาเจียน

• หมดสติ
• ได้รับสารพิษชนิดกัดเนื้อ เช่น กรด ด่าง
• รับประทานสารพิษพวก น้ำมันปิโตรเลียม เช่น น้ำมันก๊าด เบนซิน
• มีสุขภาพไม่ดี  เช่น โรคหัวใจ

- การให้สารดูดซับสารพิษในระบบทางเดินอาหาร   เพื่อลดปริมาณการดูดซึมสารพิษเข้าสู่ร่างกาย สารที่ใช้ได้ผลดี คือ Activated charcoal มีลักษณะเป็นผงถ่านสีดำ ใช้ 1 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 1 แก้ว ให้ ผู้ป่วย ดื่ม  ถ้าหาไม่ได้ อาจใช้ไข่ขาว 3 - 4 ฟอง ตีให้เข้ากันให้ ผู้ป่วยรับประทาน  ซึ่งควรใช้ในกรณีดังต่อไปนี้

• รับประทานสารพิษเข้าไปเกินครึ่งถึง 1 ชั่วโมง เพราะสารพิษผ่านกระเพาะอาหารลงไปยังลำไส้แล้ว การให้อาเจียนอาจไม่ได้ผล
• หลังจากทำให้อาเจียนแล้ว ไม่แน่ใจว่าสารพิษจะถูกขับออกมาหมดโดยการอาเจียน
• ไม่สามารถทำให้ ผู้ป่วยอาเจียนได้
• นำส่งโรงพยาบาล เมื่อให้การปฐมพยาบาลแล้ว  ขณะนำส่งให้สังเกต อาการและอาการแสดง ตลอด เวลาและให้การช่วยเหลือถ้า  ผู้ป่วยหยุดหายใจและหัวใจหยุดเต้น โดยการนวดหัวใจและการผายปอด

ที่มา : 

สมาคมส่งเสริมความปลอดภัย และอนามัยในการทำงาน

กรมแพทย์ทหารเรือ