‘ไทยสร้างไทย’ ก้างขวางทาง ‘เพื่อไทย’ ในศึก ‘กทม.-อีสาน’ เที่ยวหน้า

หากไม่มีสถานการณ์โควิดระบาดระลอกใหม่ ความเคลื่อนไหวของนักเลือกตั้งคงคึกคัก เพราะมีวาระประชุมใหญ่ประจำปีของพรรคการเมือง ทั้งเพื่อไทย พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย รวมถึงการประชุมใหญ่นัดแรกของพรรคน้องใหม่ “ไทยสร้างไทย”

เมื่อโควิดมา นักเลือกตั้งก็ล่าถอย ปล่อยให้ “รัฐบาลประยุทธ์” บริหารจัดการแบบกระพร่องกระแพร่ง จึงมีการเมืองเรื่องโควิดผุดขึ้นมาคั่นเวลา

กล่าวถึง “พรรคไทยสร้างไทย” ของ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” หลายคนอาจสงสัยว่า มีฐานเสียงอยู่ในนครบาล จะทะลวงเขตภูธรได้หรือไม่

หากพิจารณาแก่นแกนของพรรค ก็จะพบชื่อ “พงศกร อรรณนพพร” อดีต ส.ส.ขอนแก่น ซึ่งปัจจุบัน ก็มีลูกสาวและน้องชาย เป็น ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย นัยว่า “พงศกร” ถูกวางตัวเป็นแม่ทัพใหญ่ภาคอีสาน

แน่นอน คู่แข่งของพรรคไทยสร้างไทยย่อมหนีไม่พ้นพรรคเพื่อไทย เมื่อพิจารณาจากการจัดทัพใหม่ของค่าย“คนแดนไกล” จะเห็นว่า ค่าย “คุณหญิงหน่อย”พอมีโอกาสเบียดแทรกได้เหมือนกัน

ลองพลิกไปดูข้อมูลการจัด ทัพอีสาน ของพรรคเพื่อไทย ที่แบ่งออกเป็น 4 โซนคือ

โซนอีสานเหนือ อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู เลย สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร “ไชยา พรหมา” เป็นประธาน เอกธนัช อินทร์รอด รองประธาน มนพร เจริญศรี เลขานุการ

โซนอีสานกลาง ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธ์ ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม “ศักดา คงเพชร” เป็นประธาน ประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ และเชิดชัย ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษา มุกดา พงษ์สมบัติ เลขานุการ

โซนอีสานใต้ (1) ยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี “เกรียง กัลป์ตินันท์” เป็นประธาน พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ที่ปรึกษา

โซนอีสานใต้ (2) นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เป็นประธาน สมบัติ ศรีสุรินทร์ ที่ปรึกษา คุณากร ปรีชาชนะชัย เลขานุการ

จะเห็นได้ว่า ค่ายคนแดนไกลให้ความสำคัญกับโซนอีสานใต้ เพราะศึกเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา โซนนี้ถูกพรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ เบียดชิงเก้าอี้ไปได้มาก จึงมีชื่อ “พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล" อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง มาคุมสนามเอง

แม้โซนอีสานใต้ทั้ง 2 ส่วน จะมีชื่อ “เกรียง กัลป์ตินันท์” และ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เป็นแม่ทัพ แต่แม่ทัพใหญ่ก็คือ “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์

อีสานใต้ตอนบน ค่ายเพื่อไทย มีจุดอ่อนที่ศรีสะเกษ เพราะภูมิใจไทยทุ่มสรรพกำลังลงไปหนัก รวมถึงอำนาจเจริญก็ไม่ง่ายเหมือนเก่า ด้วยเหตุนี้ “เสี่ยเบี้ยว” เกรียง กัลป์ตินันท์ จึงต้องดึง “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ มาเป็นที่ปรึกษา

อีสานใต้ตอนล่าง เป็นโจทย์ที่ยากของ “ประเสริฐ” เด็กปั้นของ “เฮียเพ้ง” ทั้งบุรีรัมย์ และโคราช ส่วนสุรินทร์เพื่อไทยยังยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ไว้ได้ สมัยหน้า“ค่ายเนวิน”ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่

ค่ายเพื่อไทยรู้ดีว่าหากจะสู้กับเนวิน ก็ต้องได้แม่ทัพระดับเฮียเพ้ง จึงจะสู้ไหว

ช่วงปลายปี 2562 มีการเลือกตั้งซ่อมขอนแก่น เขต 7 พงศกร อรรณนพพร เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง และทำงานใกล้ชิดกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แม้ “ธนิก มาสีพิทักษ์” พรรคเพื่อไทย จะพ่าย “สมศักดิ์ คุณเงิน” พรรคพลังประชารัฐ แต่ไม่ได้เสียหายมากนัก เพราะสนามเลือกตั้งซ่อม ฝ่ายกุมอำนาจรัฐย่อมได้เปรียบ

ผ่านมาถึงศึกเลือกตั้งนายก อบจ. “คุณหญิงหน่อย” ได้เดินทางไปช่วยผู้สมัครนายก อบจ.แถวอีสานเหนือ และอีสานกลาง เหมือนเป็นการกรุยทางสร้างแบรนด์ใหม่

“พงศกร” เป็นนักการเมืองดาวฤกษ์ โตมาจากกงสี “หจก.อื้องี่กี่” ที่ดำเนินธุรกิจค้าพืชไร่รายใหญ่ รับเหมาก่อสร้าง และปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.หนองสองห้อง และพื้นที่ใกล้เคียง ก่อนจะหันมาสมัคร ส.ส. ในสังกัดพรรคชาติพัฒนา และเป็น ส.ส.สมัยแรก ปี 2539

ปี 2544 พงศกร ย้ายมาอยู่พรรคไทยรักไทย ได้เป็น ส.ส.ขอนแก่น 4 สมัย และส่งต่อให้ภรรยา “ดวงแข อรรณนพพร” ลง ส.ส.เขตแทน

ชั่วโมงนี้ “ข้าวฟ่าง” สรัสนันท์ อรรณนพพร ลูกสาว และ บัลลังก์ อรรณนพพร น้องชายของพงศกร ยังเป็น ส.ส.ขอนแก่น เพื่อไทย แต่ในวันหน้าก็คงต้องขยับออกจากค่ายเก่า

ด้วยชื่อชั้น “คุณหญิงหน่อย” ที่แวะเวียนมาอีสานบ่อย ทีมงานพรรคไทยสร้างไทยเชื่อว่า พื้นที่อีสานเหนือและอีสานกลาง ยังขอเบียดแทรกค่ายคนแดนไกลได้ อย่างน้อยอีสานโพลล์ในรอบ 2-3 ปีมานี้ ชื่อคุณหญิงหน่อยยังติดอันดับต้นๆ ที่คนอีสานอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี

ฉะนั้น ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ค่ายเก่าและค่ายใหม่ เลี่ยงไม่พ้นต้องเปิดศึกชิงพื้นที่กันเอง ชนิดไม่มีใครยอมใคร