สตางค์ ชี้เทรนด์ ‘ราคาบิทคอยน์’ ปรับฐานเพื่อไปต่อ หลังต่ำกว่า50,000ดอลลาร์

สตางค์ ชี้เทรนด์ ‘ราคาบิทคอยน์’ ปรับฐานเพื่อไปต่อ หลังต่ำกว่า50,000ดอลลาร์

สตางค์ คอร์ปอเรชั่น ชี้ “ราคาบิทคอยน์” หลุด50,000 ดอลลาร์ รับข่าวเล็งเก็บภาษีคริปโทฯ ของไบเดน ทำให้เกิดแรงขายต่อเนื่อง แต่คาดตลาดปรับฐานหลังราคาปรับขึ้นไปสูงมากแล้ว เพื่อไปต่อ จากปัจจุบันราคาลดลง10%ถือไม่มาก ย้ำผู้ลงทุนตระหนกรีบเทขายอาจเสียโอกาสช่วงขาขึ้น และยังลงทุนต้องตามความเสี่ยงที่รับได้

นายปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้งและกรรมการ บริษัทสตางค์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ให้บริการเว็บเทรด Satang Pro เปิดเผยว่า การปรับตัวลดลงของราคาบิทคอยน์ที่ระดับต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์ในวันนี้นั้น มองว่าเป็นการปรับตัวลงตามวัฎจักรของราคาที่ขึ้นไปสูงมาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ข่าวที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯมีนโยบายการขึ้นภาษีกำไรจากการลงทุนในคริปโตเคอเรนซีนั้น น่าจะเป็นเพียงปัจจัยที่นำมาใช้ในการขายบิทคอยน์ที่ราคาขึ้นไปสูงแล้วมากกว่า ซึ่ง ณ สัดส่วนการปรับลดลงมา 10%นั้นถือว่าไม่มากสำหรับตลาดคริปโต มีบางตัวที่ขึ้นลงถึง 30%ต่อวัน ถือเป็นธรรมชาติของตลาดคริปโตฯ

"ข่าวการจัดเก็บภาษีกำไรจากการลงทุนคริปโต เคอเรนซีนั้น ไม่น่าแปลกใจ เพราะเป็นนโยบายที่พูดมานานแล้วตั้งแต่ไบเดนหาเสียง ขณะที่ราคาบิทคอยน์นั้น ก็เป็นเรื่องปกติที่เมื่อขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว ก็ต้องย่อลงมาบ้างเป็นการปรับฐานเพื่อให้ไปต่อได้ การลดลงมาก็เป็นอาจจะสัญญาณที่ผู้ถืออยู่เห็นว่าราคาน่าจะลงมาได้แล้ว ซึ่งก็พอดีกับข่าวเรื่องการเก็บภาษีออกมาทำให้เป็นเหตุผลในการขายพอดี"

นายปรมินทร์กล่าวอีกว่า สำหรับนักลงทุนรายใหม่นั้น แนะนำให้เล่นตามความเสี่ยงที่ตนเองรับได้ และดูทิศทางตลาดต่อไป และอย่าเพิ่งตื่นตระหนกกับสถานการณ์ที่เกิด เพราะเชื่อว่าเป็นการตื่นตระหนก ที่ขายตามๆกันออกมา ซึ่งมองว่าเป็นการปรับฐานที่ดีครั้งหนึ่ง และส่วนตัวมองว่าตลาดคริปโตฯ จะยังไปได้ จากเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่มีแนวโน้มอ่อนค่าอยู่ เพราะสถานการณ์โควิด 19 ยังไม่คลี่คลาย ต้องมีการอัดฉีดเงินออกมาในระบบอีกมาก

161922846839

นายสรัล ศิริพันธ์โนน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสตางค์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า นโยบายการจัดเก็บภาษีดังกล่าวนั้น ยังเป็นเพียงแนวทางที่ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน แล้วก็เป็นการจัดเก็บในหลายๆตลาด ไม่ใช่แค่คริปโต เคอเรนซีเท่านั้น ดังนั้น ผลกระทบจึงยังไม่ชัดเจน และยังเร็วไปที่จะทำให้เกิดการเทขายบิทคอยน์ออกมาด้วยสาเหตุนี้

นายชานนท์ จรัสสุทธิกุล Project Manager บริษัทสตางค์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนรายใหญ่หรือนักลงทุนสถาบันได้เข้ามาซื้อบิทคอยน์ค่อนข้างมากทำให้ราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อซื้อแล้วก็จะเก็บไว้ในWalletทำให้จำนวนบิทคอยน์ในตลาดน้อยลง การขึ้น-ลงของราคาทำได้ง่ายขึ้น และมีความผันผวนมากขึ้นด้วย แต่ก็เชื่อว่าหากราคาลงไประดับหนึ่งแล้วก็จะหยุดเมื่อไปแตะที่ระดับต้นทุนที่รายใหญ่ถือไว้ แต่เราก็ไม่รู้ว่าเป็นจุดไหน

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ราคาบิทคอยน์ ณ 23 เม.ย.2563 เวลา 22.19น. ราคาอยู่ที่ 49,058.8 ดอลลาร์ ลดลงถึง29.56% ซึ่งลดลงต่อเนื่องหลังจากบิทคอยน์เคยทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ในวันที่ 13เม.ย. ที่ 63,564.38 ดอลลาร์  และ ลดลง 10.42% จากราคาปิดก่อนหน้าที่ 54,764.8 ดอลลาร์