'ชัยชนะ'วอนนายกฯโชว์ความเด็ดขาดแก้โควิด-ชง5แนวทางยับยั้งการระบาด

'ชัยชนะ'วอนนายกฯโชว์ความเด็ดขาดแก้โควิด-ชง5แนวทางยับยั้งการระบาด

'ชัยชนะ'วอนนายกฯโชว์ความเด็ดขาดแก้โควิด-ชง5แนวทางยับยั้งการระบาด ชี้ชีวิตประชาชนสำคัญต่อการสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด - 19 ที่ยอดผู้ติดเชื้อทะลุเกิน 2,000 รายไปแล้วว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้นำเสนอแนวทางมาตราในการป้องกันการระบาด  และเสนอไปยังนายกรัฐมนตรี ว่าให้ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ทุกพื้นที่ของประเทศไทย แต่รัฐบาลก็ไม่ยอมทำเพราะกังวลเรื่องภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจว่าจะส่งผลให้แย่ลงจากเดิม

ซึ่งจากวันนั้นมาถึงวันนี้ ตัวเลขผู้ที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในทุกๆวัน และไม่มีท่าทีว่าจะลดลงได้เลยถ้ารัฐบาลไม่ได้มีมาตราการที่ชัดเจน  ซึ่งจะส่งผลให้เตียงในโรงพยาบาลสนามที่รัฐบาลได้ออกคำสั่งให้แต่ละจังหวัดที่มีอยู่ไม่น่าจะเพียงพอในการรองรับผู้ป่วยในอนาคต 

นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า ตนจึงขอเสนอ 5 แนวทาง ให้นายกรัฐมนตรีลองพิจารณา เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบดังนี้ 1.ดำเนินการล็อคดาวน์ทั่วประเทศ  โดยห้ามเดินทางข้ามในแต่ละจังหวัดเป็นเวลา15 วัน รวมทั้ง ออกประกาศห้ามประชาชนรวมกลุ่มตั้งแต่ 10  คนขึ้นไป และไม่ออกจากเคหสถานตั้งแต่ห้าทุ่มถึงตีสี่ 

2.ไทม์ไลน์กลุ่มที่เสี่ยงในแต่ละจังหวัดต้องมีความชัดเจนและตรวจสอบย้อนหลังไปยังบุคคลที่สัมผัสได้ 3.ให้แต่ละท้องถิ่นเตรียมพร้อมสถานที่สำหรับกักตัว ในแต่ละพื้นที่นั้นๆ 4.เร่งตรวจเชื่อบุคคลที่สุ่มเสี่ยงทุกระดับ 5.ผลักดันเงินเยียวยาให้ออกมาเร็วขึ้น

"ผมถือว่ามาตรการที่ทางผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดออกมา ไม่ว่าจะเป็นการปรับเงิน 20,000 บาท หากไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อไปสถานที่สาธารณะ การห้ามข้าราชการหรือพนักงานของรัฐเดินทางข้ามจังหวัดและงดจัดงานสัมมนา การกำหนดเวลาห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน เป็นต้น ถือเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมที่แต่ละจังหวัด ไม่นิ่งเฉยและพร้อมที่จะหามาตรการใหม่ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดภายในจังหวัด"

อย่างไรก็ตาม  การที่รัฐบาลยังไม่มีมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้นเพื่อระงับยับยั้งการระบาด  ถึงแม้ว่า จะออกมาชี้แจงผ่านทางโทรทัศน์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนก็ตาม ดังนั้น ตนเห็นว่า ถึงเวลาที่นายกรัฐมนตรี ต้องแสดงความเด็ดขาดในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะ การกลับไปใช้มาตรการการล็อคดาวน์ ซึ่งต้องยอมรับว่า  จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ แต่ชีวิตมนุษย์ก็ถือว่า มีความสำคัญในการสร้างสรรค์กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ให้กลับมาฟื้นตัวดังเดิมได้