ชัวร์หรือไม่? 'วัคซีนโควิด 19' ยิ่งฉีดเร็ว ฉีดมากควบคุมโรคได้

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่าสำหรับสถานการณ์การระบาดโควิด 19 ของแต่ละประเทศนั้น (ข้อมูลตั้งแต่การฉีดวัคซีนวันแรกของแต่ละประเทศ จนถึงวันที่ 26 เม.ย.2564 )พบว่า

• สถานการณ์ฉีด "วัคซีนโควิด 19" ทั่วโลกยิ่งฉีดมากยิ่งลดเชื้อ 

ประเทศสหรัฐอเมริกา มีการ"ฉีดวัคซีน"ครั้งแรกวันที่ 14 ธ.ค.2563 ตอนนั้นมีผู้ป่วยติดเชื้อ 200,277 รายต่อวัน ล่าสุดมีการติดเชื้อเพียง 44,332 รายต่อวัน ส่วนอัตราการเสียชีวิตจากเดิม 1,793 รายต่อวัน ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 421 รายต่อวัน ทั้งนี้ มีการ"ฉีดวัคซีน"แล้ว 225,640,460 ล้านโดส จากประชากร 332.5 ล้านคน โดย"ฉีดวัคซีน"วันละ 2,824,078 โดส  41.8% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 28.0% ได้ครบโดส สิ่งที่ได้เห็นคือ อัตราของผู้ป่วยติดเชื้อลดลงอย่างชัดเจน

ประเทศบราซิล มีการ "ฉีดวัคซีน"ครั้งแรกวันที่ 17 ม.ค.2564 มีผู้ติดเชื้อ 31,294 รายต่อวัน ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อ 28,636 รายต่อวัน ส่วนผู้เสียชีวิต 518 รายต่อวัน เป็น 1,011 รายต่อวัน ส่วนสาเหตุที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม เนื่องจากตอนนี้ในบราซิลมี 2 สายพันธุ์ที่แพร่กระจายอยู่ คือ สายพันธุ์ของสหราชอาณาจักร และสายพันธุ์ใหม่ ที่เกิดขึ้นในบราซิล หรือ สายพันธุ์P.1 ที่มีการแพร่กระจายได้เร็ว และขณะนี้สายพันธุ์P.1กำลังไปกระจายในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ทั้งนี้ ภายใน 7 สัปดาห์ สายพันธุ์ P.1 กลายเป็นสายพันธุ์ที่พบมากถึง 87% ที่ระบาดในบราซิล ซึ่งสายพันธุ์นี้มีความเชื่อว่าจะรุนแรงมากขึ้น

ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก  โดย"ฉีดวัคซีน"ครั้งแรก 16 เม.ย.2564 มีผู้ป่วยติดเชื้อ 15,051 รายต่อวัน ล่าสุดมีผู้ป่วยติดเชื้อ  319,435 รายต่อวัน มีผู้เสียชีวิต181 รายต่อวัน เป็น 2,764 รายต่อวัน  มีการ"ฉีดวัคซีน"แล้ว 140,802,794 ล้านโดส ฉีดวันละ 2,614,286 โดส มีประชากร 1,366 ล้านคน 8.7% ของประชากรได้รับ 1 โดส และ 1.6%ได้ครบโดส

• อิสราเอล ต้นแบบฉีด "วัคซีนโควิด 19" ลดผู้ป่วยผู้เสียชีวิตได้จริง

ประเทศอิสราเอล ได้รับการชื่นชมว่าเป็นประเทศที่มีการจัดการโควิด 19 ได้ดีที่สุด โดยเริ่ม"ฉีดวัคซีน"ครั้งแรกในวันที่ 19 ธ.ค.2563 มีผู้ป่วยติดเชื้อ 2,734 รายต่อวัน ล่าสุดผู้ป่วยติดเชื้อ 83 รายต่อวัน มีผู้เสียชีวิตจาก 17 รายต่อวัน เป็นเสียชีวิต 1 รายต่อวัน มีการ"ฉีดวัคซีน"แล้ว 10,385,218 ล้านโดส ฉีดวันละ 10,355 โดส ประชากร 8.8 ล้านคน 59.4% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 55.3% ได้ครบโดส

ทั้งนี้ จากการ"ฉีดวัคซีน"ของอิสราเอล แสดงให้เห็นว่ายิ่งฉีดวัคซีนได้เร็วและจำนวนมากจะช่วยป้องกัน "โควิด 19" ได้ดี และเป็นประเทศต้นแบบที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการฉีดวัคซีนในการควบคุม "โควิด 19" แต่ตอนนี้ทุกประเทศกำลังจับตามองอิสราเอล เมื่อมีการประกาศเชิญชวนไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัย ต้องติดตามว่าจะมีผลกระทบต่อการแพร่ระบาดหรือไม่

ประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในประเทศที่มีการระบาดรอบ 2 และรอบ 3 "ฉีดวัคซีน"ครั้งแรกวันที่ 27 ธ.ค.2564 มีผู้ป่วยติดเชื้อ 8,822 รายต่อวัน ล่าสุดมีผู้ป่วยติดเชื้อ 5,952 รายต่อวัน มีผู้เสียชีวิต 257 รายต่อวัน เป็น 398 รายต่อวัน ขณะนี้มีการ"ฉีดวัคซีน"แล้ว 19,219,719 ล้าน โดส "ฉีดวัคซีน"วันละ 331,769 โดส ประชากร 65.2 ล้านคน 21.3% ของประชากรได้รับ 1 โดส และ8.3% ได้ครบโดส

ประเทศอิตาลี อีกหนึ่งประเทศที่ยังควบคุมได้ไม่ดี "ฉีดวัคซีน"แล้ว 17,257,664 ล้านโดส "ฉีดวัคซีน"วันละ 335,385 โดส ประชากร 60.5 ล้านคน 20.1% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 8.4%  ได้ครบโดส  "ฉีดวัคซีน" ครั้งแรก วันที่ 27 ธ.ค.2563 มีผู้ป่วยติดเชื้อ 8,930 รายต่อวัน ขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อ 8,444 รายต่อวัน อัตราผู้เสียชีวิต305 ราย เป็น 301 ราย

ประเทศเยอรมนี  เป็นกลุ่มประเทศที่"ฉีดวัคซีน"แล้ว 24,821,527 ล้านโดส"ฉีดวัคซีน"วันละ 498,455 โดส ประชากร 83.8 ล้านคน 22.8% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 7.0% ได้ครบโดส "ฉีดวัคซีน"ครั้งแรกในวันที่ 27 ธ.ค.2563 มีผู้ป่วยติดเชื้อ 12,155 รายต่อวัน ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อ 9,568 รายต่อวัน อัตราผู้เสียชีวิต 345 ราย เป็น 107 รายต่อวัน

สหราชอาณาจักร เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ประสบความสำเร็จที่ดี ประมาณ 2ใน- ของคนสหราชอาณาจักร จะติดเชื้อสายพันธุ์UK ทำให้รัฐบาลสหราชอาณาจักประกาศอย่างรวดเร็ว ดังนั้น วันที่ 8 ธ.ค.2563 สหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกที่มีการฉีดวัคซีน  โดยขณะนั้นมีผู้ป่วยติดเชื้อ 12,259 รายต่อวัน และตอนนี้ 2,064 รายต่อวัน  "ฉีดวัคซีน"แล้ว 45,580,400 ล้านโดส ฉีดวันละ 495,701 โดส ประชากร 67.9 ล้านคน  50.2% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 18.1% ได้ครบโดส

• ความปลอดภัย-สถานภาพ"วัคซีนโควิด 19" ทั้ง 8 ชนิด 

ขณะนี้ สถานภาพของ"วัคซีนโควิด 19" ทั้งหมด 8 ชนิด นั้น AstraZeneca มีการใช้มากที่สุด โดยมีทั้งหมด 91 ประเทศทั่วโลกนำไปใช้ มีการศึกษาในระยะที่ 3 ถึง 24 การศึกษาใน 15 ประเทศ วัคซีนตัวที่ 2 คือ Pfizer มี 83 ประเทศทั่วโลกนำไปใช้  มีการศึกษาในระยะที่ 3 ถึง 18 การศึกษาใน 12 ประเทศ วัคซีนตัวที่ 3 คือ Sputnik V มี 62 ประเทศทั่วโลกนำไปใช้ มีการศึกษาในระยะที่ 3 ถึง 19 การศึกษาใน 6 ประเทศ  วัคซีนตัวที่ 4 คือ Moderna  มี 46 ประเทศทั่วโลกนำไปใช้ มีการศึกษาในระยะที่ 3 ถึง 15 การศึกษาใน 3 ประเทศ  

วัคซีนตัวที่ 5 คือ Johnson &Johnson  มี 40 ประเทศทั่วโลกนำไปใช้ มีการศึกษาในระยะที่ 3 ถึง 8 การศึกษาใน 17 ประเทศ วัคซีนตัวที่ 6 คือ Sinopharm (Beijing) มี 35 ประเทศทั่วโลกนำไปใช้ มีการศึกษาในระยะที่ 3 ถึง 6 การศึกษาใน 7ประเทศ วัคซีนที่ 7 คือ Sinovac มี 22 ประเทศทั่วโลกนำไปใช้ มีการศึกษาในระยะที่ 3 ถึง 14 การศึกษาใน 7 ประเทศ และวัคซีนที่ 8 คือ Bharat Biotech  มี 6 ประเทศทั่วโลกนำไปใช้ มีการศึกษาในระยะที่ 3 ถึง 5 การศึกษาใน 1 ประเทศ

อย่างไรก็ตาม รายงานจากสหรัฐอเมริกา ยืนยันชัดเจนว่า ไม่มีหลักฐานว่ามีผู้ป่วยที่เสียชีวิตเกิดจากวัคซีนโดยตรง หรือหน่วยงานกลางยุโรป European Medicine Agency (EMA) รายงานของ PRAC ที่ศึกษาดูเรื่องการเกิดลิ่มเลือด 37 รายในผู้ที่ได้รับวัคซีน AstraZeneca จำนวน 17 ล้านโดส ในประเทศต่างๆ ในยุโรป (ถึงวันที่ 8 มี.ค.2564) ไม่พบมีความสัมพันธ์กัน (18 มี.ค.2564)

สหราชอาณาจักรศึกษาผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน  AstraZeneca จำนวนรวม 18.1ล้านโดส (ถึง24 มี.ค.2564) พบมี 22 รายเกิดลิ่มเลือดในระบบเลือดดำของสมอง และ 8 ราย เกิดลิ่มเลือดร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ  The Medicines and Health Products Regulatory Agency-MHRA ของสหราชอาณาจักร สรุปว่าวัคซีนของ AstraZeneca ปลอดภัยมาก อุบัติการณ์การเกิดลิ่มเลือดต่ำกว่าสถิติทั่วไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: วัคซีน 'วาระแห่งชาติ' ทางรอดของประเทศ

                    'รัฐ-เอกชน'ผนึกแก้วิกฤติชาติ '45 CEO' แบ่งทีมจัดหา-ฉีดวัคซีน