SCGP ชูแผนธุรกิจปรับเร็วทุกสถานการณ์ คงเป้ารายได้ปีนี้ทะลุแสนล้าน
"เอสซีจีพี" ไม่หวั่นโควิดระลอก3 ชู แผนธุรกิจปรับเร็วทุกสถานการณ์ คุมต้นทุน เดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศ พร้อคงเป้ารายได้ปีนี้ทะลุแสนล้าน โต10%จากปีก่อน
นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด -19 ระลอก 3 แต่บริษัทยังคงมีมาตรการการป้องกันโรคระบาดเข้มข้น พร้อมบริหารงานแบบยืดหยุ่นสอดคล้องกับสถานการณ์ ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน สื่อสารกับพนักงานอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการความเสี่ยงด้านต้นทุน เพื่อรองรับทุกสถานการณ์และความต้องการลูกค้า
ทั้งนี้ทำให้บริษัทใจว่ายังรักษาความสามารถในการทำกำไรได้ และรายได้คาดว่ายังเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน จากการรับรู้รายได้ Fajar ในประเทศอินโดนีเซีย และ SOVI ในประเทศเวียดนาม รวมถึงโครงการขยายกำลังการผลิตที่จะทยอยเปิดดำเนินการในไตรมาส 2 จนถึงปลายปีนี้
อย่างไรก็ตามหากกระดาษบรรจุภัณฑ์ในอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ก่อสร้างแล้วเสร็จและมีกำลังการผลิตเต็มที่ปี 2565 รายได้จะเพิ่มอีก 9,000 ล้านบาท และการเข้าซื้อหุ้น 70%ของน Duy Tan Plastics Manufacturing Corporation( Duy Tan)ในเวียดนามคาดจะปิดดีลแล้วเสร็จในกลางปีนี้ จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอีก รวมถึงมีการพัฒนาสินค้าที่เป็นนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
นายวิชาญ กล่าวว่า บริษัทจะผ่านวิกฤติปีนี้ไปได้เช่นปีก่อนที่เราปรับตัวได้เร็ว และหากคุมการแพร่ระบาดได้ดีในภาพรวมปรับตัวในทิศทางดีขึ้นตามลำดับ เช่นเดียวกับไตรมาส1ปี2564 ที่มีรายได้นิวไฮ ที่ 27,253 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% และมีกำไร 2,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23%หลังความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้ทะลุ100,000 ล้านบาท เติบโตกว่า10%จากปีก่อนที่มีรายได้ 93,388.33 ล้านบาท เนื่องจาก การเติบโตของธุรกิจในต่างประเทศต่อเนื่อง ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-10 ในต่างประเทศ ทั้งอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม ยังควบคุมได้ดี ส่วนในยุโรปมีแนวโน้มดีขึ้น
บริษัทตั้งงบลงทุนปีนี้20,000 ล้านบาท และยังมีวงเงินอีก 9,000 ล้านบาท ซึ่งเตรียมไว้สำหรับการขยายกิจการในเวียดนามจะปิดดีลได้ในกลางปีนี้และโครงการอื่นๆ