'พ่อ-ลูกคนโต' ดับคาบ้าน รอตรวจโควิด แม่อาการหนัก ลูกคนเล็กติดเชื้อคลัสเตอร์ทองหล่อ
พื้นที่สีแดงเข้ม สมุทรปราการ "พ่อ-ลูกคนโต" ดับคาบ้าน รอตรวจโควิด แม่อาการหนัก หลัง "ลูกคนเล็ก" ติดเชื้อคลัสเตอร์ทองหล่อ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 เมษายน 2564 ร.ต.อ.วิโจน์ มูลมานัด รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายเสียชีวิตในขณะกักตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ของหมู่บ้านเฟื่องฟ้า 12 ซอยมังกรนาคดี ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตำบลเทพารักษ์ และมูลนิธิร่วมกตัญญูพร้อมอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อเดินทางเข้าตรวจสอบ
บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น เจ้าหน้าที่ต้องสวมใส่ชุดป้องกันการติดเชื้อ PPC อย่างมิดชิด และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าตรวจสอบ ที่บริเวณชั้นล่างได้พบร่างของผู้ป่วยชาย อายุ 42 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน ซึ่งคาดว่าน่าจะติดเชื้อโควิด 19 เสียชีวิต
เนื่องจากก่อนหน้านี้ น้องชายที่ทำงานอยู่ในย่านทองหล่อ ได้เกิดล้มป่วยและไปตรวจแลเชื้อโควิด 19 ที่โรงพยาบาล ผลออกมาเป็นบวก และได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ทำให้คนในบ้านที่อยู่ด้วยกัน 3 คนต้องกักตัวรอดูอาการอยู่ภายในบ้าน รอเจ้าหน้าที่มารับตัวทั้งหมดไปตรวจหาเชื่อโควิด เนื่องจากเป็นบุคคลสัมผัสเสี่ยงสูง
ต่อมาเมื่อวันอังคารที่ 27 เมษายน ที่ผ่านบิดาวัย 60 ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงได้เสียชีวิต ทำให้เหลือผู้กักตัวในบ้านหลังดังกล่าวเพียง 2 คน คือผู้เสียชีวิตและแม่วัย 72 ปี นอนป่วยอยู่ที่เตียงข้าง ๆ เจ้าหน้าที่ได้ทำการแยกตัวผู้เป็นแม่ออกห่างจากตัวผู้เสียชีวิต ก่อนที่จะนำร่างของผู้เสียชีวิตบรรจุลงซองซิปพลาสติกที่สวมทับ สองชั้นป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อก่อนที่มูลนิธิจะทำการเคลื่อนย้ายร่างของผู้เสียชีวิตออกจากบ้านหลังดังกล่าวเพื่อส่งชันสูตร
เพื่อนบ้าน ซึ่งมีบ้านพักอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านของผู้เสียชีวิต ได้เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวพักอาศัยกันอยู่ 4 คน ร่วมน้องชายที่ติดเชื้อโควิดนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยก่อนหน้านี้ลูกชายคนเล็กของบ้านหลังดังกล่าวได้ทำงานอยู่ในย่านทองหล่อ ย่านกล้วยน้ำไท และบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่พ่อแม่และพี่ชายพักอาศัยอยู่ พ่อเป็นผู้ป่วยติดเตียงมา 3 ปีแล้ว
และสันนิษฐานว่าลูกชายคนนี้น่าจะเชื่อโควิดมาแพร่ที่บ้าน ซึ่งตัวพ่อพึ่งเสียชีวิตเมื่อคืนวันอังคาร 27 เม.ย. และเมื่อเช้านี้เป็นตัวลูกชายคนโตที่เสียชีวิตไปเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.
ตอนนี้เหลือเพียงแม่คนเดียวที่ป่วยหนักและทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตำบลเทพารักษ์ เพิ่งมารับตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ
ส่วนตัวลูกชายคนเล็กที่ทำงานอยู่ในย่านทองหล่อได้ไปตรวจหาเชื้อแล้วแต่ผลเพิ่งออกเมื่อวันพุธ 28 เม.ย. ว่าเป็นบวก แต่พ่อได้เสียชีวิตไปก่อนแล้วตั้งแต่วันอังคาร ก่อนที่ผลตรวจของลูกชายคนเล็กจะออกมาว่าติดเชื้อ
และมาในวันนี้ลูกชายคนโตก็มาเสีย เหลือเพียงแม่คนเดียวที่ตอนนี้อาการหนักไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มีอาการไอและเหนื่อย ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะติดเชื้อ และหลังจากที่เจ้าหน้าที่รับตัวคนในบ้านออกไปหมดได้มีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้ออีกครั้ง
ยอมรับว่ากลัว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีผู้ติดเชื้ออีกรายแต่เอาไปรักษาหายแล้ว แต่หลังนี้น่ากลัวเพราะว่าผู้ป่วยไม่รู้ตัวว่าตัวเองติดเชื้อมาก่อน
นายสุทนธ์ วงส์ศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจำตำบลเทพารักษ์ ได้กล่าวว่า ก่อนหน้านี้จากข้อมูลพบว่า ลูกชายซึ่งทำงานอยู่ย่านทองหล่อ เดินทางไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ก่อนที่จะเดินทางมากั๊กตัวอยู่ที่บ้านหลังนี้ เพื่อรอผลต่อมาเมื่อวันที่ 27 เมษายน ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่แล้วได้เสียชีวิตลงโดยไม่ยืนยันว่าเสียชีวิตจากโควิดหรือไม่ ทางครอบครัวจึงนำร่างไปประกอบพิธีทางสาสนาที่วัดหนามแดง
กระทั้งวันที่ 28 เมษายน ทางโรงพยาบาล ได้โทรมาแจ้งผลลูกชายคนเล็กว่าติดเชื้อโควิด และรถของโรงพยาบาลได้เข้ามารับตัวไปรักษาในวันเดียวกัน ทำให้คนในบ้านกลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จึงได้ให้กักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อรอดูอาการและจะประสานรถให้มารับตัวผู้เป็นแม่และลูกชายคนโต ไปตรวจหาเชื้อ
กระทั่งเช้าวันนี้ได้รับแจ้งว่า ลูกชายคนโต ซึ่งมีประวัติเป็นโรคหอบ ได้มาเสียชีวิตเพิ่มแต่ยังไม่ยืนยันว่ามาจากการติดเชื้อโควิดหรือไม่ จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบ พร้อมกับนำตัวผู้เป็นแม่ไปตรวจหาเชื้อ ที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ