ขยายเตียง 'Hospitel' 4,900 เตียงรับผู้ป่วยโควิด
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 มีเพิ่มขึ้นทุกวัน ทั้งผู้ป่วยรายใหม่ ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้เสียชีวิต ดังนั้น ทุกหน่วยงานจึงเร่งเพิ่มเตียง รพ.สนาม และ "Hospitel" รองรับผู้ป่วย 4,900เตียง
แม้หลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข กทม. โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดหาเตียงเพื่อ "ผู้ป่วยโควิด -19" โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง แต่ดูแล้วก็ยังไม่แน่ชัดว่าเพียงพอรองรับผู้ป่วยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวันหรือไม่?
โดย“เตียงสนาม”ในขณะนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เตียงสนามที่ "โรงพยาบาลสนาม" ที่หน่วยงานรัฐเตียงสนาม เพียงพอหรือไม่? ซึ่ง "เตียงสนาม"มี 2 ส่วน คือ "เตียงสนาม"ที่กทม. และเป็น"เตียงสนาม"ภาครัฐและเอกชน เปิดในรูปของ "Hospitel" ซึ่งในส่วนของกทม.เปิด"เตียงสนาม" ประมาณ 1,900 เตียง รองรับผู้ป่วยไปแล้วประมาณ 1,000 กว่าคน ว่างอยู่ประมาณ 600 เตียง และกำลังจะเปิดเพิ่มเติมโดยเร็ว
- ขึ้นทะเบียน23แห่ง เตียงสนาม 4,900เตียง
“Hospitel” (ฮอสพิเทล)สำหรับ "ผู้ป่วยโควิด-19" เป็นการดำเนินการที่ภาครัฐได้ดึง “ผู้ประกอบการโรงแรม” หลายแห่ง ซึ่งช่วงนี้ยังไม่มีรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้ปรับเป็น “Hospitel” หรือ “หอผู้ป่วยติดโรคโควิด-19 เฉพาะกิจ”
"Hospitel" มาจากการผสมระหว่างคำ 2 คำ คือคำว่า Hospital ที่แปลว่า โรงพยาบาล และคำว่า Hotel ที่แปลว่า โรงแรม มีจุดประสงค์เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีอาการน้อยหรือไม่รุนแรง ด้วยการปรับเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังอาการ เนื่องจากผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทางโรงพยาบาลสามารถรองรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด
ปัจจุบันข้อมูลจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)ระบุว่ามี "Hospitel" ขึ้นทะเบียนแล้ว 23 แห่ง จำนวน 4,900 เตียง ดูแลผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 2 พันเตียง เตรียมเพิ่มให้ได้ 5-7 พันเตียง ซึ่งจะช่วยลดแออัดในโรงพยาบาล
รวมทั้งขณะนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้เตรียมเตียงจากโรงพยาบาลทุกสังกัด ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กองทัพ ตำรวจ มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลเอกชน รวม 6,525 เตียง ใช้แล้ว 3,700 กว่าเตียง ส่วนหนึ่งสำรองไว้สำหรับผู้ที่มีอาการมาก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
- เอกชน-ภาครัฐตั้ง "Hospitel"
ปรินทร์ พัฒนธรรม Executive Assistant Manager of Movenpick BDMS Wellness Resort Bangkok ในฐานะประธานชมรม ASQ Thailand Club กล่าวว่าหลังจากมีการระบาดของโควิด-19 สำหรับธุรกิจโรงแรมการปรับตัว 2 รูปแบบ คือ การเปลี่ยนกลุ่มลูกค้า ปรับราคาให้คนไทยเอื้อมถึง และ การปรับตัวตามความต้องการของลูกค้า ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มาเที่ยวแต่มากักตัว โดยเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นสถานที่กักตัวทางเลือก หรือ ASQ และตอนนี้มีบางส่วนปรับเป็น "Hospitel"
ขณะที่กระทรวงแรงงานโดยสำนักงานประกันสังคม ได้เสนอเข้าไปที่บอร์ด ศบค. ในการที่กระทรวงแรงงานจัดตั้ง "Hospitel" โดย MOU กับ รพ. ในเครือประกันสังคม ในการรับการตรวจผู้ประกันตน หากตรวจเจอเชื้อจะนำไปพัก "Hospitel" แต่หากอาการหนัก จะส่งไป รพ. ในเครือประกันสังคม ที่มีห้องฉุกเฉินรองรับ ขอรับรองว่า หากมาตรวจ ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานครไทยญี่ปุ่นดินแดง เมื่อเจอเชื้อจะมีเจ้าหน้าที่ประสาน นำรถไปรับมารักษา ฟรีทั้งหมด
ด้านโรงพยาบาลเอกชนที่ได้เปิด "Hospitel" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาทิ รพ.สุขุมวิท ได้ร่วมกับ รร.มาเลเชีย จำนวน 100 เตียง รพ.วิภาราม ร่วมกับ รร.โอโซน 40 เตียง รพ.ปิยะเวท ร่วมกับรร.รัตนโกสินทร์ 150 เตียง รพ.ปิยะเวท ร่วมกับรร.อินทรา รีเจ้น 455 เตียง รพ.สินแพทย์ เสรีรักษ์ ร่วมกับ รร.สินศิริ รามอินทรา 69 เตียง รพ.สินแพทย์ ร่วมกับ รร.สินศิริ
152 เตียง รพ.กรุงเทพ ร่วมกับ รร.ชีวา 75 เตียง รพ.ธนบุรี ร่วมกับรร.พูลแมน 324 เตียง และรพ.เกษมราษฎร์อินเตอร์ ร่วมกับ รร.ฌอกะเชอ 200 เตียง เป็นต้น
- รพ.ธนบุรีทำ "Hospitel"800เตียง
นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยว่า จากการระบาดระลอกใหม่ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส โรงพยาบาลในเครือ THG จึงเตรียมความพร้อมรองรับคนไข้ "โควิด-19" เพื่อสนับสนุนภาครัฐแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด ตั้งแต่การเปิดตรวจคัดกรองโรค"โควิด-19" และบรรเทาปัญหาขาดแคลนห้องพัก โดยจัดตั้งหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ หรือ"Hospitel"ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างโรงแรมและ THG เพื่อปรับห้องพักโรงแรมมาเป็นห้องผู้ป่วยชั่วคราว
“คาดว่าโรงพยาบาลในประเทศไทย จะสามารถรองรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในระดับประมาณ 2,000 คนต่อวัน จึงจำเป็นต้องเตรียมการขยายพื้นที่รักษา อีกทั้งถ้าสามารถรักษาผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือแสดงอาการเพียงเล็กน้อย โดยการขยายพื้นที่รักษาผู้ป่วยนี้ จะช่วยให้สามารถเข้าถึงการรักษาและป้องกันการแพร่กระจายโรคได้ดีขึ้น หากควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อได้และมีพื้นที่ดูแลผู้ป่วยที่อาการน้อย ก็จะช่วยให้มีเตียงโรงพยาบาลสำรองสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงกว่า และช่วยลดโอกาสที่อัตราผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นจากการมีห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU) และเครื่องช่วยหายใจไม่เพียงพอ” นพ.บุญ กล่าว
ทั้งนี้ THG ได้ร่วมมือกับ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท (อโศก) และโรงแรมไอบิส กรุงเทพฯ อิมแพ็ค ปรับพื้นที่เพื่อรองรับคนไข้ โดยมีห้องรวมทั้งสองโรงแรมกว่า 800 ห้อง พร้อมเตรียมทีมแพทย์และพยาบาลเพื่อดูแลคนไข้ โดยใช้การสื่อสารผ่านระบบ Telemedicine เพื่อความปลอดภัย คนไข้จะได้รับบริการอาหาร จัดยา ติดตามและประเมินอาการจากแพทย์และพยาบาล จนกระทั่งหายเป็นปกติและตรวจไม่พบเชื้อ จึงสามารถกลับบ้านได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: รวม Hospitel รับผู้ป่วยโควิด
กทม.เปิด Hospitel แห่งใหม่ย่านบางกะปิ รับผู้ป่วย 'โควิด' 30 เม.ย
- PRINCขยาย "Hospitel"120เตียง
เช่นเดียวกับ ธานี มณีนุตร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) (PRINC) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจเพื่อสุขภาพ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัดกล่าวว่า โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ได้ขยายศักยภาพของการรองรับ "ผู้ป่วยโควิด-19" ภายในพื้นที่ของโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 100-120 เตียง และได้ร่วมมือกับโรงแรมจัดตั้งหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ "โควิด-19" หรือ "Hospitel" ขึ้น
โดยผู้ป่วยสามารถใช้สิทธิประกันสุขภาพหรือสิทธิ UCEP แล้วแต่กรณี เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ป่วยอีก 70 เตียง ที่โรงแรม เกต 43 แอร์พอร์ท (Gate43 Airport Hotel) ถือเป็น "Hospitel" แห่งแรกในจังหวัดสมุทรปราการนอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการจัดหา "Hospitel" เพิ่มเติมเพื่อรองรับ "ผู้ป่วยโควิด-19" เพิ่มเติมอีกไม่ต่ำกว่า 100
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า "Hospitel" จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่พักรักษาและช่วยรองรับผู้ป่วยในช่วงการแพร่ระบาดรวดเร็วในปัจจุบันได้ระดับหนึ่ง เพราะหากมีผู้ติดเชื้อ 2,000 กว่าคนทุกวัน แถมมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้ออาการรุนแรงเพิ่มมากขึ้น"Hospitel" ก็อาจจะไม่เพียงพอ
เนื่องจากไม่ใช่ว่าโรงแรมแห่งไหนจะเปิดได้ทันที ต้องมีความร่วมมือกับโรงพยาบาล และต้องมีทีมบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงอาหาร ยาและอื่นๆ ดังนั้น ต่อให้มีความพยายามเพิ่ม "Hospitel"หรือ "รพ.สนาม" รองรับ "ผู้ป่วยโควิด-19" แต่ก็ยังคงเห็นข่าว "ผู้ป่วยโควิด-19" เสียชีวิตขณะรอเตียงในรพ. สิ่งที่ทุกคนจะทำได้ดีในตอนนี้ คือการดูแลตัวเอง ไม่เป็นผู้ติดเชื้อ "โควิด-19" และไม่เป็นผู้แพร่เชื้อเพิ่ม