เจาะธุรกิจ ‘NSL Foods’ เบื้องหลังความอร่อย 7-11 กับแผนเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ พ.ค. 64

ความคึกคักของตลาดหุ้นไทย ที่แม้โควิด-19 ยังคงอยู่ แต่ในหลายๆ ธุรกิจกลับยังเดินหน้าไปได้ดี เห็นได้จากหุ้นไอพีโอหลายๆ ตัวที่เดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2564 นี้ที่ประสบความสำเร็จล้นหลาม มีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาในตลาดหุ้นมากขึ้น โดยข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากต้นปี 2564 ถึงสิ้นเดือนมกราคม 2564 มีการเปิดบัญชีเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์กว่า 2 แสนบัญชี ทำให้นักลงทุนเปิดบัญชีรวมแล้วกว่า 3.7 ล้านบัญชี

และเร็วๆ นี้ก็มีอีกหนึ่งบริษัทดาวรุ่งที่เตรียมตัวเปิดไอพีโอเข้าตลาดหลักทรัพย์ในเดือนพฤษภาคม 2564 ที่จะถึงนี้ นั่นคือ บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “NSL Foods” ที่แม้จะเตรียมเป็นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ NSL Foods ไม่ใช่หน้าใหม่ในธุรกิจอาหาร โดยหลายคนอาจไม่ทราบว่า นี่คือผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยของแซนวิชอบร้อนยอดนิยม ขายดีตลอดกาล วางขายในกว่าหมื่นสาขาของเซเว่นอีเลฟเว่นทั่วประเทศ

นับตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2546 ในนาม Dough Maker ซึ่งผลิตสินค้าประเภทอาหารหลากหลายชนิด ก่อนจะก่อตั้ง NSL เป็นโรงงานแห่งที่ 2 เพื่อรองรับธุรกิจที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด และเดินหน้าพัฒนาธุรกิจต่อบนวิสัยทัศน์แห่งการเป็น Nutrition Sustainable for Life หรือ “โภชนาการที่ยั่งยืนของชีวิต”

ปัจจุบัน สินค้า “NSL Foods” มีมากมายที่เราคุ้นตา หากลองไล่ดูสินค้าและช่องทางจัดจำหน่ายดูก็จะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อาทิ สินค้า EZY TASTE, EZY BAKE และ EZY SWEET ที่ขายใน 7-11 ทุกสาขา ส่วนขนมขบเคี้ยวต่างๆ อย่าง Natural Bites, ChiLee และ Butterfin จะเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำอย่าง Tops, Central Food Hall, Villa Market, Gourmet Market และอีกแบรนด์อย่าง ปังไท นั้นวาง Traditional Trade ตลาดหัวเมือง และร้านค้าตามจังหวัดต่างๆ

จุดแข็งที่สำคัญ เบื้องหลังการเติบโตของ NSL คือ สินค้าทุกชิ้นที่ออกจากโรงงาน เน้นคุณภาพ ความสม่ำเสมอ และความปลอดภัยทางด้านอาหาร โดยมีหัวใจสำคัญของความสุขคือ ความอร่อย มีนวัตกรรมอาหารใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง

NSL Foods เติบโตมาได้อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้เป็นปีที่ 18 และกำลังจะก้าวต่อไปอย่างมั่นคงสู่ทศวรรษที่ 2 ในอีก 2 ปีข้างหน้า ก็ได้เวลาที่ “NSL Foods” ประกาศเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเดือนพฤษภาคม 2564 ที่จะถึงนี้ พร้อมระดมทุนสร้างโรงงานใหม่ขยายพอร์ตธุรกิจอาหารสำเร็จรูป

นายสมชาย อัศวปิยานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NSL Foods กล่าวถึงความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า เราเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 75 ล้านหุ้น คิดเป็น 25 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดของบริษัทฯ ภายในไตรมาส 2 ของปี 2564 หรือประมาณเดือนพฤษภาคม เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินและเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ โดยแต่งตั้งให้บริษัทที่ปรึกษา เอเชียพลัสจำกัดเป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงิน

“NSL เราก่อตั้งมาแล้ว 18 ปี เรามีความชำนาญทางด้านธุรกิจด้านอาหารทั้งเบเกอรี่และอาหารสำเร็จรูป เรามีความมั่นใจและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากยอดขายของเราที่ก้าวกระโดด ปี 2561 เรากำไรกว่า 79 ล้านบาท ปี 2562 กำไรกว่า 150 ล้าน และปี 2563 ก็กำไรใกล้เคียงกันคือ 151 ล้าน ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การกำไรจะเป็นการเติบโตที่ต่อเนื่อง ฉะนั้นจึงมั่นใจได้ที่จะลงทุนกับเรา เป้าของปีนี้เราตั้งไว้ที่ 3,500 ล้าน จากผลการเติบโตของเราและแผนการเติบโตของคู่ค้า เรามั่นใจว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เราสามารถทำได้ตามเป้า ส่วนจำนวนปริมาณหุ้น IPO ที่จะระดมทุน 75 ล้านหุ้นนั้นถือเป็นปริมาณที่เหมาะสมจากการวางแผนกันมาในระยะยาวกับทางเอเชียพลัส”

นายอัครเดช เลี่ยมเจริญ ผู้อำนวยการด้านบัญชีและการเงิน บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป้าหมายหลักของการระดมทุนเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อรองรับแผนการขยายกำลังการผลิตสำหรับโครงการใหม่โดยก่อสร้างอาคารโรงงานแห่งใหม่และเครื่องจักรมูลค่าประมาณ 350 ล้านบาท และมีกำลังการผลิตรองรับรายได้สูงสุด 1,200 ล้านบาทต่อปี ตัวโรงงานจะตั้งอยู่บริเวณพื้นที่โรงงานเดิมภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ชลบุรี อาคารแห่งใหม่คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี หากความต้องการของตลาดมีความชัดเจนภายในปี 2564 นี้ บริษัท คาดการณ์จะเริ่มสร้างปี 2565 แล้วเสร็จปี 2566  ซึ่งจะเน้นการผลิต 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่

1. อาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน เช่น ซุป อาหารแช่แข็ง และซอสต่างๆ
2. อาหารพร้อมรับประทานแบบไม่ต้องแช่เย็น เช่น แกงและกับข้าว
3. อาหารกึ่งสำเร็จรูป เช่น โจ๊กคัพ และซุป

“บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) มีการเตรียมความพร้อมในการเข้าตลาด SET มาตั้งแต่ปี 2561 เนื่องจากธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 บริษัทฯ ได้มีการเข้าซื้อกิจการฟู้ดเซอร์วิสเข้ามาเพราะเราเล็งเห็นถึงช่องทางการเติบโตที่จะช่วยให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง ซึ่งที่ผ่านมาแม้เราจะอยู่ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ในปี 2563 ได้พิสูจน์แล้วว่าเราสามารถปรับตัวกับผลกระทบที่เข้ามาและสามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยเน้นกลยุทธ์ Nutrition Sustainable for Life เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตอาหารที่เติบโตอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าเติบโตด้านรายได้ภายในระยะเวลา 5 ปี (2568) ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท”

นายอัครเดช กล่าวเสริมว่า สำหรับรายงานผลประกอบการปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,927.6 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากส่วนของกลุ่มธุรกิจเบเกอรี่และรองท้อง มีมูลค่า 2,759.5 ล้านบาท รองลงมาคือ ฟู้ดเซอร์วิส มีมูลค่า 132.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจที่บริษัทฯ ซื้อกิจการเข้ามากลางปี 2562 และในปี 2563 ได้เริ่มรับรู้การเติบโตของรายได้ โดยรายได้รวมของ NSL ปี 2563 ลดลงไป 13 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากผลกระทบในช่วงวิกฤตโควิด-19

อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 5.2 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2562 ซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 4.6 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าอัตรากำไรที่สูงขึ้นเป็นเพราะการบริหารต้นทุน และบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาท และมีเป้าหมายการเติบโตประมาณ 16 เปอร์เซ็นต์

NSL Foods มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50.0 เปอร์เซ็นต์ของกำไรสุทธิ อย่างไรก็ตาม NSL อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลแตกต่างไปจากนโยบายที่กำหนดไว้ได้ โดยจะขึ้นอยู่กับผลประกอบการ ฐานะการเงิน สภาพคล่องทางการเงิน ความจำเป็นในการใช้เงินเพื่อบริการกิจการ และขยายธุรกิจของ NSL Foods รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ ณ ขณะนั้น โดยราคาขายจะประกาศให้ทราบทั่วกันในวันที่ลงนามแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายหลักทรัพย์ (Underwriter) ประมาณสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม 2564

เกี่ยวกับบริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน)

บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NSL Foods ผู้ผลิตและจำหน่ายแซนวิชอบร้อน เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว นำเข้าและจำหน่ายเนื้อสัตว์และผักแช่แข็ง ก่อตั้งขึ้นในปี 2546 ในชื่อ Dough Maker ด้วยแนวทางการดำเนินงานในรูปแบบ “The Happy Taste Creator” ปี 2549 จึงตั้งเป็น บริษัท NSL Foods โดยปี 2554-2558 ได้มีการเพิ่มขยายฐานการผลิตมากขึ้น มีโรงงานอีก 2 แห่งที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ จังหวัดชลบุรี หลังปี 2559 เริ่มพัฒนาสินค้าภายแบรนด์ของ NSL เองเช่น Butterfin, ปังไท ที่เป็นกลุ่ม Bakery Snack ซึ่งต่อยอดจากความชำนาญของ NSL

ปี 2561 สร้างแบรนด์ ChiLee นอกจากนี้ยังพัฒนานวัตกรรมทางด้านอาหารอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 ได้จัดตั้งแบรนด์ Natural Bites สินค้า snack เจาะกลุ่มตลาดเพื่อสุขภาพ มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการดูแลสุขภาพตัวเองเป็นหลัก และยังได้รับรางวัลสินค้านวัตกรรมอีกหลายรางวัล อาทิเช่น SIAL Innovation Award, THAIFEX-Anuga Finalist ฯลฯ และในปีเดียวกันยังได้ซื้อกิจการของบริษัท ควอลิตี้ฟู้ด สเปเชียลตี้ จำกัด (QFS) ซึ่งนำเข้าอาหารทะเล เนื้อสัตว์ และผักสดแช่แข็ง และเมื่อเข้าสู่ปี 2563 ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ Bakery Arigato เพื่อขายใน Tops และ Family Mart ในเครือเซ็นทรัล

บริษัทมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยการเป็นผู้ผลิตแซนวิชอบร้อนอันดับหนึ่งให้กับร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นทั่วประเทศกว่า 12,000 สาขาทั่วประเทศ ในหมวดเบเกอรี่มากกว่า 40 รายการ โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1,250,000 ชิ้นต่อวัน นอกเหนือจากแซนวิชอบร้อนและผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ที่จำหน่ายในเซเว่นอีเลฟเว่น ยังมีสินค้าในหมวดอื่นๆ อีกมากมายดังที่กล่าวมาข้างต้น

ปัจจุบันบริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) สินค้า และมีโรงงานตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ชลบุรี 2 โรงงาน อีก 1 โรงงาน อยู่ที่บางบัวทอง  และคลังสินค้า 1 แห่ง บริเวณโรงงานบางบัวทอง เพื่อรองรับธุรกิจฟู้ดเซอร์วิส

"ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน"

ข้อมูลสรุปของ บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน)