'อันวาร์' ส่งหนังสือถึงกรรมการบริหารพรรค จี้ 'ปชป.' ถอนตัวร่วมรัฐบาล
"อันวาร์" ส่งหนังสือถึงกรรมการบริหารพรรค จี้ "ประชาธิปัตย์" ถอนตัวร่วมรัฐบาล-เปลี่ยนผู้นำประเทศ
วันที่ 7 พ.ค.นายอันวาร์ สาและ ส.ส. ปัตตานี และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ เสนอขอให้พรรคถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาของชาติ จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และรมช.เกษตรและสหกรณ์ ไม่พ้นสภาพ ส.ส. เพราะเป็นการกระทําผิดในต่างประเทศ และถูกจําคุกด้วยคําวินิจฉัยของศาลต่างประเทศ ซึ่งไม่เกี่ยวกับศาลไทย จึงทําให้เกิดวิกฤตศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมเพิ่มมากยิ่งข้ึน โดยมีศาลรัฐธรรมนูญตกเป็นจําเลยของสังคม แม้ในคําวินิจฉัยศาลจะพยายามอ้างเหตุผลพร้อมทั้งตัวบทกฎหมายอย่างไรก็ตาม แต่ดูเสมือนสังคมไม่ยอมรับ
นายอันวาร์ได้หยิบยกความเห็นของสุณัย ผาสุก ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์ วอทช์ ประจำประเทศไทยว่า “คําวินิจฉัยที่น่าตกใจยิ่งของศาลรัฐธรรมนูญนี้จะทําให้บรรดาอาชญากรทั้งหลายที่ถูกพิพากษาคดีในศาลประเทศอื่น สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ในประเทศไทยอย่างไร้กังวล อาชญากรรมที่คนเหล่านี้ ก่อไว้ในต่างแดน ไม่ว่าจะร้ายแรงแค่ไหน ไม่มีความหมายในกระบวนการยุติธรรมของไทย”
นอกจากนี้สื่อออสเตรเลียยังรายงาน เรื่องคําตัดสินของศาลไทยพร้อมทั้งมีคําวิจารณ์ต่อด้วยว่าโจรที่ไหนก็เข้ามาทํางานการเมืองไทยได้ ถ้าไม่ได้ทําผิดในประเทศไทย ซึ่งข่าวนี้เป็นกระแสดังไปทั่วโลกเพราะทุกประเทศก็ทราบกันดีว่าองค์การสหประชาชาติตระหนักถึงความสําคัญของปัญหายาเสพติด ที่จะต้องมีความจําเป็นในการร่วมมือระหว่างประเทศในการควบคุมจึงได้มีการจัดทําอนุสัญญาด้านยาเสพติดเพื่อให้สามารถนํามาใช้ เป็นเครื่องมือ (Legal instruments) ในการควบคุมยาเสพติด ทําให้มีอนุสัญญาที่สําคัญเกิดขึ้นจํานวน 3 ฉบับ ซึ่งอนุสัญญาทั้ง 3 ฉบับนี้ มีประเทศต่างๆได้ให้การยอมรับและเข้าเป็นภาคีแล้ว โดยการให้สัตยาบันเป็นจํานวนมาก และสําหรับประเทศไทยนั้น ในฐานะที่เป็น สมาชิกขององค์กรสหประชาชาติจึงได้ร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญา 3 ฉบับข้างต้นแล้ว
นายอันวาร์ ระบุอีกว่า ตนไม่โทษศาลรัฐธรรมนูญ และก็จะไม่โทษ ร.อ.ธรรมนัส แต่ผมจะโทษ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพราะปัญหาทั้งหมดเกิดจากท่านนายกฯไม่ใช่หรือ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเบื้องหลัง ร.อ.ธรรมนัส เป็นอย่างไร แต่ไม่สนใจ กลับแต่งตั้งมาเป็นรัฐมนตรี การกระทําเช่นนั้นเท่ากับเป็นการดูแคลนประชาชนคนไทยทั้งประเทศ และเมื่อเกิดกระแสสังคมต่อต้านทําให้ ร.อ.ธรรมนัสมีความจําเป็นต้องออกมาประกาศให้สังคมทราบผ่านสื่อเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 62 ว่า “ผมคือเส้นเลือดใหญ่เลี้ยงหัวใจรัฐบาล ผมกุมความลับ ดีลต่อรองหากล้มผมได้รัฐบาลก็สั่นคลอน” นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ท่านนายกฯต้องแต่งตั้งหรือไม่ ทั้งๆที่เคยประกาศว่าจะต่อต้านนักการเมืองเลวๆในทุกรูปแบบ ซึ่งท่านไม่ได้ให้คําจํากัดความว่านักการเมืองเลวๆ ในความหมายของท่านคืออย่างไร แล้วในพรรคร่วมรัฐบาลมีหรือไม่
นายอันวาร์ ระบุต่อว่า สรุปแล้วปัญหาทั้งหมดเกิดจากใคร เกิดจากนายกฯหรือไม่ และเมื่อมีปัญหาที่ต้องแก้ไข ท่านก็โยนให้องคก์รอิสระที่มีอยู่ มาจัดการแทน ทำให้สังคมแตกแยกกันในเรื่องความคิด ซึ่งจะนําไปสู่วิกฤตศรัทธา คงจํากันได้ ที่ผมเสนอว่า ต้องร่วมรัฐบาล ด้วยความจริงใจ ทําในสิ่งถูกให้เป็นถูกผิดให้เป็นผิด ปัญหาจะแก้ไขได้อย่าเห็นแก่การร่วมรัฐบาล ต้องเห็นแก่ประชาชนและประเทศชาติ วันนี้รัฐบาลมีปัญหามาก สังคมวิตก ภาคเอกชนก็แสดงความจริงใจที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเรื่องวัคซีนแต่รัฐบาลก็ปฏิเสธ ปัญหาต่างๆรุมเร้า และยังไม่มีแนวทางชัดเจนที่จะแก้ไข การที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้ท่านนายกฯลาออก คงเป็นไปไม่ได้ เพราะท่านคิดว่า ท่านไม่ผิด คิดว่าวิกฤติทั้งหมดเกิดจากวิกฤติโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องโควิด แต่คงไม่มีใครกล้า เตือน ว่าปัญหาทั้งหมดเกิดจากตัวผู้นํา ทั้งๆ ที่ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้วที่สหรัฐอเมริกา “ผู้นําเปลี่ยน วิกฤติเปลี่ยน”
นายอันวาร์ ระบุด้วยว่า ดังนั้น เมื่อฝ่ายค้านเรียกร้องให้ท่านนายกฯลาออกซึ่งท่านคงไม่ออก ท่านก็คงอยู่อย่างนี้ทุกอย่างก็คงเหมือนเดิมเพราะพรรคร่วมรัฐบาลก็เป็นพรรคเดิม ก็คงคิดแบบเดิม ๆ แนวทางที่จะแก้ไขปัญหาก็ไม่ชัดเจน ผมจึงขอเสนอสิ่งที่ผมเคยเสนอเอาไว้หลายคร้ัง ว่าพรรคประชาธิปัตย์ควรใช้โอกาสนี้แก้ไขปัญหาของประเทศชาติ ด้วยการถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลเพื่อเปิดโอกาสให้มีการเปลี่ยนแปลงตามกลไกของระบอบประชาธิปไตย