นายกฯ สิงคโปร์ประณามเหตุ‘ทำร้าย’หญิงเชื้อสายอินเดีย
นายกฯ สิงคโปร์ประณามเหตุทำร้ายร่างกายหญิงท้องถิ่นเชื้อสายอินเดียคนหนึ่งที่ถูกเตะเพราะไม่สวมหน้ากาก ตำรวจกำลังสอบสวนเหตุ
นายกรัฐมนตรีลี เซียนหลุงของสิงคโปร์ โพสต์เฟซบุ๊คเมื่อคืนวันจันทร์ (10 พ.ค.) ระบุ “ขณะที่ผู้คนอาจกังวลและเคร่งเครียดกับการระบาดของโควิด-19 แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลให้มีทัศนคติและกระทำการเหยียดเชื้อชาติ ถึงขั้นไปทำร้ายร่างกายคนอื่นเพราะเธอมีเชื้อชาติใดเชื้อชาติหนึ่งในกรณีนี้คืออินเดีย”
สื่อสิงคโปร์รายงานว่า เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ (8 พ.ค.) หญิงสิงคโปร์วัย 55 ปี กำลังเดินอย่างเร่งรีบ แล้วถูกชายคนหนึ่งตะโกนด่าพาดพิงเชื้อชาติ เพราะเธอไม่ได้สวมหน้ากากปิดจมูก จากนั้นก็เข้ามาเตะเธอที่หน้าอก
ทั้งนี้ สิงคโปร์บังคับสวมหน้ากากในที่สาธารณะ แต่ถอดออกได้ขณะออกกำลังกาย รวมทั้งการเดินเร็ว
เหตุทำร้ายร่างกายครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สิงคโปร์ควบคุมระเบียบการเว้นระยะ และทางการพบว่า จำนวนการติดเชื้อในชุมชนจากโควิดกลายพันธุ์เพิ่มขึ้น รวมถึงสายพันธุ์ที่ติดเชื้อง่ายพบครั้งแรกในอินเดีย
นอกจากนายกรัฐมนตรีแล้วนักการเมืองคนอื่นๆ ก็ประณามการทำร้ายกันครั้งนี้ด้วย
นางสาวเกรซ ฟู รัฐมนตรีกระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม ระบุ “เรารู้สึกแค้นเคืองเมื่อชาวเอเชียถูกทำร้ายเพราะเชื้อชาติในประเทศอื่น เราต้องไม่ปล่อยให้พฤติกรรมแบบนั้นฝังรากที่นี่”
ความรุนแรงเพราะความเกลียดชังที่เกิดกับชาวเอเชียเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะในสหรัฐ ในช่วงที่โควิด-19 ที่พบครั้งแรกในจีนระบาด
ประชาชนเชื้อสายจีนคิดเป็นราว 3 ใน 4 ของประชากรสิงคโปร์ ตามด้วยเชื้อสายมาเลย์ 15% และอินเดีย 7.5% นอกจากนี้สิงคโปร์ยังเป็นศูนย์รวมแรงงานต่างชาติจากหลายๆ ประเทศ จึงต้องใช้กฎหมายเข้มงวดเพื่อรักษาความกลมกลืนระหว่างเชื้อชาติและศาสนา