ส่อง แคลอรี 'ทุเรียน' แต่ละพันธุ์ กินอย่างไรให้พอดี

ส่อง แคลอรี 'ทุเรียน' แต่ละพันธุ์ กินอย่างไรให้พอดี

​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยกิน "ทุเรียน" มาก จะทำให้ได้รับพลังงานสูง ย้ำควรกินในปริมาณ ที่พอเหมาะ ไม่ควรกินทุเรียนเกินวันละ 2 เม็ด ไม่กินถี่ทุกวัน แนะ "แคลอรี" ทุเรียนแต่ละสายพันธุ์แตกต่างกัน และควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาที

วันนี้ (13 พ.ค. 64) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ทุเรียนจัดอยู่ในอาหารกลุ่มผลไม้ที่มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ รวมทั้งเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต หากต้องการกินทุเรียนให้ได้รับประโยชน์และคุณค่าทางสารอาหารที่เหมาะสม ไม่ควรกินทุเรียนเกินวันละ 2 เม็ดขนาดกลาง (หนักประมาณ 80 กรัม) ไม่กินถี่ทุกวัน และลดอาหารกลุ่มข้าว-แป้ง 1 ทัพพี และของหวานในมื้อที่กินทุเรียน

แต่ถ้าใครชอบกินทุเรียนมาก หากกินครั้งละประมาณ 2-3 พู หรือ 4-6 เม็ด ร่างกายจะรับพลังงานสูงถึง 520 – 780 กิโลแคลอรี ซึ่งเทียบเท่ากับกินอาหารมื้อหลัก 2 มื้อ ทุเรียนแต่ละพันธุ์เมื่อเปรียบเทียบต่อปริมาณเนื้อทุเรียนหนัก 100 กรัมหรือ 1 ขีด จะให้พลังงานต่างกัน เช่น

  • ทุเรียนก้านยาว ให้พลังงาน 181 กิโลแคลอรี
  • ทุเรียนรวง ให้พลังงาน 157 กิโลแคลอรี
  • ทุเรียนหมอนทอง ให้พลังงาน 156 กิโลแคลอรี
  • ทุเรียนชะนี ให้พลังงาน 139 กิโลแคลอรี
  • ทุเรียนกระดุม ให้พลังงาน 129 กิโลแคลอรี
  • ทุเรียนกวน จะให้พลังงานมากขึ้นไปอีก คือ 340 กิโลแคลอรี

นอกจากนี้ ยังควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน

162090167516

สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคเบาหวาน โรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวังเรื่องการกินทุเรียนมากกว่าคนทั่วไป อาจกินได้แต่ต้องกินในปริมาณน้อยกว่าคนปกติและไม่บ่อยเกินไป เพราะการกินทุเรียนปริมาณมากหรือกินทุเรียนบ่อยเกินไป จะส่งผลต่อระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดได้ นอกจากนี้ ประชาชนไม่ควรกินทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากทุเรียนเป็นอาหารที่มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ให้พลังงานสูงเช่นเดียวกัน

"เมื่อกินทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะได้รับพลังงานที่มากเกินไป ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดกระบวนการ เผาผลาญเพื่อกำจัดของเสียเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ กรดกำมะถันในทุเรียนจะทำให้เอนไซม์ที่กำจัดสารพิษจากกระบวนการเผาผลาญลดลง หากมีปัญหาสุขภาพหรือโรคประจำตัวอาจทำให้เกิดอาการหน้าแดง ชา วิงเวียนและอาเจียน หากนำส่งโรงพยาบาลไม่ทันอาจเสียชีวิตได้” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว