คลัสเตอร์ใหม่แคมป์ก่อสร้าง บางพลัด เฝ้าระวังตลาด-ชุมชน-โรงงาน

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด 19 ประจำวัน ว่า วันนี้ กทม.มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,001 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังใน รพ. 708 ราย เป็นคนไทย 541 ราย และต่างด้าว 167 ราย และค้นหาเชิงรุกในชุมชน 293 ราย เป็นคนไทย 132 ราย ต่างชาติมากกว่า 161 ราย จุดที่ระบาดมาก ๆ คือ ดอนเมือง แคมป์ก่อสร้างที่หลักสี่ แฟลตดินแดง ห้วยขวาง ที่พักคนงานก่อสร้างคลองเตย และตลาดพลอย บางรัก

ขณะนี้หลัก ๆ พบ 36 คลัสเตอร์ กระจายใน 25 เขต เฝ้าระวังสูงสุด 14 เขต คือ ดินแดง ราชเทวี หลักสี่ ดุสิต ป้องปราบศัตรูพ่าย คลองเตย มีกลุ่มคลัสเตอร์มากกว่า 1 กลุ่ม บางรัก สาทร พระนคร ประเวศ บางกอกน้อย ห้วยขวาง บางเขน บางคอแหลม จตุจักร ดอนเมือง บางซื่อ บางกะปิ โดยมีทั้งแคมป์ก่อสร้าง ตลาด ชุมชน สถานประกอบการเป็นคอลเซ็นเตอร์ติดมาด้วย โรงงานน้ำแข็ง โกดังสินค้า ส่วนที่เฝ้าระวังมี 4 เขต คือ วัฒนา สวนหลวง จตุจักร และราชเทวี ส่วนคลัสเตอร์ใหม่ คือ บางพลัด เป็นแคมป์ก่อสร้าง บ.แสงฟ้า

“ช่วงนี้จะพบการรายงานแคมป์ก่อสร้างเยอะมาก ล่าสุดการรายงานแคมป์ก่อสร้างวันที่ 17 พ.ค. มีแคมป์ทุกเขต 50 เขต รวม 409 แห่ง คนงาน 62,169 คน เป็นคนไทย 26,134 คน และต่างด้าว 36,035 คน ต่างชาติเยอะกว่าคนไทย เป็นข้อมูลที่บอกว่าทั้ง 50 เขต ผอ.เขตต้องเข้าไปดู  นายกฯ ก็ย้ำว่าแคมป์คนงานก่อสร้างมีความสำคัญสูงมาก ต้องได้รับความร่วมมืออย่างสูงจากผู้ประกอบการ ซึ่งรายชื่อทั้งหมดแคมป์ทั้งหมดมีการมอนิเตอร์ผ่านสำนักงานเขตทุกเขต ขอให้สำนักงานเขตที่มีอำนาจเต็มต้องทำงานอย่างเต็มที่ เพราะพบค้นหาเชิงรุกวันละ 300-400 คน ต้องนอน รพ.ไม่ต่ำกว่าครึ่งพัน มีสะสมวันก่อนยังหาเตียงไม่ได้อีก ทบกันวันนึง 500-800 คนต่อวัน เป็นหน้าที่ของฝ่ายท้องถิ่นดูแลคนในเขตพื้นที่” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

สำหรับเขตที่ดูแลอย่างดีควบคุมคลัสเตอร์ได้มี 8 เขต คือ ทวีวัฒนา ปทุมวัน สาทร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ จตุจักร ลาดพร้าว สวนหลวง ซึ่งขอบคุณประชาชนในชุมชนด้วย แม้จะติดโรคได้ก็ควบคุมโรคได้

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า คณะกรรมการที่ปรึกษา ศบค.เสนอเรื่องของต่างด้าวว่า กทม.และปริมณฑลมีการประมาณการว่าจะมีต่างด้าวถูกกฎหมายทั้งหมด 1.31 ล้านคน กทม.ประมาณ 5.8 แสนคน สมุทรสาคร 2.3 แสนคน สมุทรปราการ 1.6 แสนคน ปทุมธานี 1.3 แสนคน นนทบุรี 9.9 หมื่นคน นครปฐม 9.3 หมื่นคน ที่ไม่ถูกกฎหมายประมาณการทั้งประเทศคือหลักล้านคน ถ้าไม่จัดการอะไรขึ้นมา คนเหล่านี้มีข้อจะเกิดปัญหา คือ

1. เป็นผู้ที่ไม่อยู่นิ่ง จะหลบหนี เคลื่อนย้ายตัวเองบ่อย ๆ
2. พฤติกรรมจะไปอยู่กับคนที่ถูกกฎหมายและเกาะกลุ่มรวมกันและย้ายจุดไป และ
3. มีที่พักที่แออัด นอนที่เดียวกันพื้นที่แคบ ๆ กินดื่มในพื้นที่จำกัด นำมาสู่การควบคุมโรคได้ยาก

คณะกรรมการที่ปรึกษา ศบค.เสนอว่า

1.ศูนย์คัดแยกผู้ป่วยกลุ่มแรงงานต่างด้าว อาจเป็นแคมป์ควอรันทีน ป่วยแยกออกมา ตัวอย่างที่พูดคุยคือ รพ.สนาม ปทุมธานี เอาตลาดเก่ามาปูเสื่อวางเตียงเรียงกันไปให้อากาศถ่ายเท ให้คนต่างด้าวมาอยู่ด้วยกัน และชุมชนดูแลกัน มีรั้วรอบขอบชิด กทม.ควรจะต้องรีบทำ ทีเพิ่ม 300-400 คนจากการเชิงรุกต้องรีบทำ

2.มีมาตรการขยายนิรโทษกรรมให้ขึ้นทะเบียนถูกกฎหมาย เพื่อเข้าสู่ระบบการจ้างงานถูกกฎหมาย

“กทม.ต้องการทีมสอบสวนโรคเพิ่มขึ้น ตอนนี้ต้องการพยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข ทีมละประมาณ 4 คน ลงไปสอบสวนโรคทั้งหมดเกือบทุกเขตและต้องการทีมฉีดวัคซีนมีแพทย์ พยาบาล อาสาสมัครทำงานทั่วไป ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านสาธารณสุข สำนักอนามัย กทม. เบอร์ 0648052620 ถ้ามีจิตอาสามาช่วยกันได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว