'เพื่อไทย' รำลึก 7 ปีรัฐประหาร 'ยิ่งลักษณ์' ชี้ประเทศถอยหลังครั้งสำคัญ
"เพื่อไทย" รำลึก 7 ปี "ประยุทธ์" รัฐประหาร "ยิ่งลักษณ์" 22 พ.ค.57 ชี้ประเทศถอยหลังครั้งสำคัญ
วันที่ 22 พ.ค. พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊คในวันครบ 7 ปีรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 ว่า วันนี้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก นำกำลังทหารทำการรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ ยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จุดเริ่มต้นประเทศต้องถอยหลังครั้งสำคัญ
22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16:30 น. เป็นต้นไปคือ ช่วงเวลาที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดย พลเอกประยุทธ์ ฉีกรัฐธรรมนูญ 2550 จากนั้นก็ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ก่อนหน้าที่จะเกิดการรัฐประหารครั้งที่ 13 ของประวัติศาสตร์ไทย ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างปี 2556 - 2557 มีความตึงเครียดอย่างมาก เนื่องจากเกิดการชุมนุมของ กปปส. นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้บุกปิดสถานที่ราชการ ปิดเมือง ชัตดาวน์กรุงเทพฯ และประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อกดดันให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในปี 2554 ต้องพ้นจากตำแหน่ง
จากการชุมนุมที่ยืดเยื้อของ กปปส. ท้ายที่สุด นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ตัดสินใจยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน ในวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แต่การเลือกตั้งดังกล่าวก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้เป็นโมฆะ
สถานการณ์การเมืองร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีพร้อมรัฐมนตรีอีก 9 คนพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 เนื่องจากการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ช่วงเวลานั้นเริ่มมีกระแสข่าวหลุดออกมาว่ากองทัพที่นำโดย ผบ.ทบ.ที่ชื่อประยุทธ์ เตรียมการที่จะทำรัฐประหาร
จากนั้นในช่วงวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ก็เริ่มมีการเคลื่อนกำลังทหารพร้อมด้วยอาวุธครบมือ ได้บุกเข้าควบคุมสถานีโทรทัศน์และสื่อสารมวลชน รวมทั้งตั้งด่านในจุดต่างๆ ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 พร้อมกับการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ
ในที่สุด #ณวันนั้น 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16.30 น. สถานีโทรทัศน์และรายการวิทยุทั่วประเทศไทยก็ถูกตัดสัญญาณ ฉายภาพทหารในเครื่องแบบ 5 คนนั่งเรียงหน้ากระดาน ประกาศว่าพวกตนคือ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่อ้างว่าก่อตั้งขึ้นเพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมือง
การรัฐประหารครั้งนั้น ส่งผลให้รัฐธรรมนูญ 2550 ถูกฉีก ประชาชนถูกช่วงชิงอำนาจไปในชั่วพริบตา ซึ่งต่อมา คสช. ได้แถลงขอเวลาประชาชน 1 ปี เพื่อจัดระเบียบและพาประเทศชาติให้พ้นภัย พร้อมกับออกอากาศเพลง “คืนความสุขให้ประเทศไทย” … ‘เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน’ ที่ไม่มีอยู่จริง
คสช. ใช้เวลานานกว่า 3 ปี กว่าจะยกร่างรัฐธรรมนูญ 2560 แล้วเสร็จ การคว่ำร่างรัฐธรรมนูญที่ยกร่างโดยคนที่ตนเองแต่งตั้งเข้ามาและการเลือกตั้งที่ถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีก กินเวลาไปกว่า 5 ปี คนไทยถึงจะได้มีการเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่เคยทำตามสัญญา
การเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 และกลไก ส.ว. 250 คน ที่มาจากการสรรหาโดย คสช. กลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พลเอกประยุทธ์ ได้ยึดครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และเป็นการครองอำนาจต่อเนื่องนับจนถึงวันนี้ก็นานกว่า 7 ปี ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการสืบทอดอำนาจ ที่ส่งผลให้ประเทศถอยหลังไปเรื่อยๆ ในหลายมิติ
“การตัดสินใจยึดอำนาจเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิต ตนใช้เวลามากกว่า 6 เดือนเพื่อตัดสินใจ ไม่ได้ตั้งใจไว้ล่วงหน้าว่าจะทำการรัฐประหาร เพียงแต่ตนไม่สามารถปล่อยให้ประเทศชาติเสียหายไปมากกว่านี้”
(It was the most difficult decision I ever made in my life. It took more than six months for me to make the decision. It was not that I made a decision in advance, [but] I could not allow any further damage to be done to my country.)
คือข้อความบางส่วนจากบทสัมภาษณ์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในนิตยสารไทม์ ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่แสดงให้เห็นว่าการรัฐประหารครั้งนั้นมีการวางแผนเตรียมการอย่างน้อย 6 เดือน สอดคล้องกับที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เผยว่าเคยหารือยุทธวิธีในการล้มรัฐบาลทักษิณกับ พลเอกประยุทธ์ มาก่อนหน้านั้นแล้วหลายปี
ตลอด 7 ปีภายใต้อำนาจของพลเอกประยุทธ์ ไม่เพียงแค่คำสัญญา “ใช้เวลาอีกไม่นาน” จะไม่เคยเกิดขึ้นจริง การปฏิรูปการเมือง การสร้างความปรองดอง หรือการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ก็เป็นปัญหาสำคัญที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข รวมทั้งการบริหารประเทศที่ถูกมองว่าล้มเหลวในแทบทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน และเศรษฐกิจปากท้อง หรือล่าสุดการแก้ไขวิกฤตการระบาดเชื้อโควิด-19 ที่รัฐบาลล้มเหลวในการจัดการ ตั้งแต่การรับมือการระบาด กระบวนการตรวจรักษาเชิงรุกและความล่าช้าในการจัดหาวัคซีน จนสร้างปัญหาให้กับคนไทยอย่างแสนสาหัส
จากปัญหาข้างต้นทั้งหมด จึงไม่ได้เป็นการกล่าวเกินความจริงเลยว่าตลอด 7 ปี ภายใต้การบริหารงานของพลเอกประยุทธ์นั้นกำลังทำให้ประเทศถอยหลังครั้งสำคัญ