'ปทุมธานี' ต้นแบบฉีดวัคซีนทางเลือก 'คำรณวิทย์' ชี้ไทยจะได้ 'ซิโนฟาร์ม' 20 ล้านโดส

'ปทุมธานี' ต้นแบบฉีดวัคซีนทางเลือก 'คำรณวิทย์' ชี้ไทยจะได้ 'ซิโนฟาร์ม' 20 ล้านโดส

เลือก "ปทุมธานี" ต้นแบบฉีดวัคซีนทางเลือก เป็นพี่เลี้ยงให้ อบจ. ทั่วประเทศ "คำรณวิทย์" ชี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะได้วัคซีนโควิด "ซิโนฟาร์ม" 20 ล้านโดส

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เตรียมปูพรมฉีดวัคซีนทางเลือก ซิโนฟาร์ม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยให้ปทุมธานีเป็นจังหวัดต้นแบบ ในการบริหารจัดการวัคซีน

พลอากาศตรี นายแพทย์สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า วัคซีนที่จะมีการนำเข้ามาที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์คือ ซิโนฟาร์ม เป็นวัคซีนที่มีความต้องการสูง ตามเอกสารพบว่ามีมาตรฐานสูงอันดับต้น ๆ ในการตอบสนองทำให้เกิดภูมิต้านทานได้ดี ความปลอดภัยสูง

ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ให้ทางบริษัทขึ้นทะเบียนซิโนฟาร์มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยได้แล้ว เป็นการจัดสรรวัคซีนทางเลือกให้กับประเทศ ซึ่งภายในประเทศไทยมีวัคซีนอยู่ 2 ชนิดได้แก่ 1.ซิโนแวค 2.แอสตราเซเนกา เป็นความต้องการใช้วัคซีนที่ค่อนข้างสูงในประเทศ แต่ปริมาณที่เราได้รับวัคซีนจาก 2 ชนิดยังไม่เพียงพอ จึงนำวัคซีนซีโนฟาร์มเพื่อปิดช่องว่างที่มีอยู่

ทำให้วัคซีนที่ได้รับมาจะได้ครอบคลุมคนทั้งประเทศ เป็นการฉีดวัคซีนปูพรมได้เร็วที่สุด ทำให้ภาคเอกชนการทำงานต่าง ๆ สามารถทำงานได้ หมายความว่า การทำกิจวัตรประจำวัน ที่เราสามารถทำธุรกิจธุรกรรมต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ทุกคนมีสิทธิในประเทศไทย เพียงแต่ว่า รัฐบาลต้องใช้เวลาในการหาวัคซีน เพื่อครอบคลุมคนทั้งประเทศ

ช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤตที่เราต้องช่วยกัน ทั้งภาคเอกชน หน่วยราชการท้องถิ่น ที่จะดูแลคนของตัวเองได้เบื้องต้นทำให้ธุรกรรมธุรกิจเดินไปข้างหน้าได้ ไม่ใช่หมายความว่ารัฐบาลไม่มีความสามารถ แต่ความเร็วในการหาวัคซีนเข้ามาใช้จะทำให้ธุรกรรมธุรกิจเขาเดินหน้า เขาสามารถทำกำไลกับธุรกิจเขาได้ คนหาเช้ากินค่ำก็สามารถทำงานได้ อันนี้เป็นส่วนที่ควรจะทำ ในตอนนี้ ส่วนความพร้อมในการให้วัคซีนที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้มา จะแบ่งตามลำดับความสำคัญ คิดว่าทุกคนจะต้องได้หมด เพียงแต่ว่าจะมีด้านเอกสารด้านของความมั่นคงที่จะต้องมาคุยกับเรา เพื่อจัดสรรวัคซีนในเบื้องต้น

พล.อ.ต. นายแพทย์สันติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดปทุมธานีและทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้เคยมาช่วยฉีดวัคซีนให้บุคลาการทางการศึกษามาแล้วในเบื้องต้น และได้เคยพูดคุยกันไว้ว่าถ้า อบจ.ปทุมธานี มีความพร้อมก็ทำหนังสือมาเพื่อขอสนับสนุนวัคซีนทางเลือกของเรา โดยทำให้จังหวัดปทุมธานีก่อนเพื่อเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่น ดูว่าเราจะทำอย่างไร เอกสารเป็นอย่างไร ลงทุนกันอย่างไร ได้วัคซีนอย่างไร และการบริหารวัคซีนเป็นอย่างไร


ซึ่งวัคซีนเป็นการใช้แบบฉุกเฉินจึงต้องมีรูปแบบพอสมควร ต้องมีการควบคุมคุณภาพและรายงานคุณภาพหลังจากที่ฉีดแล้ว เกิดปัญหาอะไรต้องรายงานกับ อย. เพื่อให้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ใช่มีงบแล้วมาซื้อไปได้ เพราะมี รายละเอียดที่มากมายเบื้องต้นได้คุยกับ นายก อบจ.ปทุมธานีไว้แล้ว เพราะเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมและมี ประสบการณ์โดยให้เป็นผู้รวบรวมการสั่งซื้อจากจังหวัดอื่นๆแล้วเสนอขึ้นมาที่เดียวพร้อมเป็นพี่เลี้ยงในเรื่องเอกสารและการดำเนินการในเรื่องต่างๆต่อไป

ส่วนนายเสวก ประเสริญสุข รอง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่รอบแรกในปี พ.ศ. 2563 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ขณะนั้นในนานกลุ่มคนรักปทุม ได้ติดต่อหาน้ำยาฆ่าเชื้อโควิดอย่างดี พร้อมอุปกรณ์ทันสมัย รถแคปซูล ฉีดพ่นทั้งภายในอาคารและนอกอาคารโดยพ่นให้ประชาชนทั่วทั้งปทุมธานี ซึ้งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และ ท่านได้เต็มที่กับทุกอย่างที่ได้รบกับโควิดมาโดยตลอด และทำให้จังหวัดปทุมธานีจะได้ปลอดจากโควิด


และวันนี้เราอยากได้วัคซีนที่ดีที่สุด มาฉีดให้คนปทุมธานีเพื่อให้เปิดหน้ากากไม่ต้องกลัวโควิดกันอีกต่อไป นี่คือนโยบายของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ท่านเป็นหมอท่านรู้ว่าอะไรดีไม่ดี อยากให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้มอบให้จังหวัดปทุมธานีฉีดก่อนเป็นตัวอย่าง อย่างน้อย 500,000 คนก่อน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจของคนปทุมธานี ทำให้เศรษฐกิจความเป็นอยู่ของคนปทุมดีขึ้น เพราะเรามีความพร้อมที่จะเป็นต้นแบบอย่าง มีคุณสามารถอบรมแนะนำการฉีดวัคซีนกับ อบจ.อื่น ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการฉีดวัคซีนว่าทำอย่างไร รวมถึงแกปัญหาให้ทุกจังหวัดได้


ที่ผ่านมาเราได้เห็นว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ท่านมีความเสียสละรักษาคนป่วยฟรีมาโดยตลอด เมื่อทราบทราบว่าวัคซีนไหนเป็นวัคซีนที่ดีจึงอยากที่จะนำมาให้ประชาชนชาวปทุมธานี รวมถึงจังหวัดอื่นมาดูงานที่จังหวัดปทุมธานีได้ ที่ผ่านมาท่าน นายก อบจ. ได้นำแรปบิทเทสมาตรวจคัดกรองให้ชาวปทุมทั้งจังหวัดปทุมธานี หากผลบวกเป็นอย่างไรก็ไปสวอพคัดกรองหาเชื้ออีกที ทุกวันนี้ทาง อบจ.ได้บริการตรวจคัดกรองให้ชาวปทุมทุกวัน วันละ 1,500 คน เพื่อให้ชาวปทุมธานีปลอดจากโควิด ครั้งหนึ่งเราก็เคยได้วัคซีนจากสถาบันจุฬาภรณ์ มาฉีดให้คนปทุมธานี ซึ่ง อบจ.ปทุมธานีได้ดำเนินการอย่างเรียบร้อย แสดงถึงความพร้อมของเราจริงๆ ที่เราได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ขณะนี้พี่น้องประชาชนมีใจจดจ่อว่าจะได้ฉีดวัคซีนหรือไม่ บางคนคิดว่าวัคซีนน่ากลัว โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้จัดหาวัคซีนซีโนแวคและแอสตราฯ แต่วันนี้ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีวัคซีนซีโนฟาร์มเข้ามา เป็นวัคซีนทางเลือก โดยเขาพร้อมที่จะเสียเงินที่จะได้ฉีดวัคซีน ซึ่งต้องแยกส่วนที่ฉีดของทางรัฐบาลที่ฉีดโดยกระทรวงสาธารณสุข

162242905641

และที่ฉีดโดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ที่จะมีวัคซีนเข้ามาภายในเดือนมิถุนายนก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง ต้องแยกกันให้ออก เนื่องจากจังหวัดปทุมธานีเป็น 1 ใน 5 จังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดของประเทศ และเป็นพื้นที่สีแดง จังหวัดปทุมธานีจึงได้รับส่วนแบ่งวัคซีนจากรัฐบาลมาเบื้องต้นจำนวน 60,000 กว่าโดส สามารถฉีดให้ประชาชนได้ 30,000 กว่าคน ซึ่งไม่เพียงพอ


แต่ขณะเดียวกันจังหวัดที่ไม่ได้แพร่ระบาดแต่กลับได้มากกว่าเรา เนื่องจากตนได้รับการเลือกตั้งจากพี่น้องประชาชน จึงมองว่าในเมื่อไม่เพียงพอ เราจะทำอย่างไร ให้พี่น้องประชาชนได้ฉีดอะไรได้บ้าง จนในวันนี้มีวัคซีนทางเลือกเข้ามา จึงต้องดิ้นรนเพื่อหาวัคซีนทางเลือกคือซีโนฟาร์ม เข้ามาฉีดพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด เพราะปทุมธานีเป็นจังหวัดสุ่มเสี่ยงทั้งจังหวัดอยู่แล้ว จึงได้หารือกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จนได้รับการฉีดวัคซีนตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว โดยฉีดให้บุคลากรทางการศึกษาเพื่อรองรับโรงเรียนที่จะเปิดเทอม แต่ก็ไม่เพียงพอ จึงทำบันทึกถึงราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ขอจองไว้ก่อนอย่างน้อย 500,000 โดส ซึ่งขณะนั้นจากที่พูดคุยกับทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะได้วัคซีนมาจำนวน 20 ล้านโดส จึงได้จองไว้อย่างน้อย 500,000 หรือ 1,000,000 โดส

จำนวนประชาชนของจังหวัดปทุมธานีรวมประชากรแฝงด้วยคาดว่ากว่า 2ล้านคนขึ้นไป ถ้าเราฉีดได้ 500,000 คน จึงมองว่าจังหวัดปทุมธานีเรารอดแล้ว ซึ่งครั้งแรกจองไว้ 300,000 โดส แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีโทรศัพท์มาหาขอให้จองวัคซีน 500,000 โดส คนจึงเรียนทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ขอ 500,000 โดส โดยจะเอางบประมาณ งบสะสมแต่ไม่ได้อยู่ในอำนาจของตน จึงต้องมีการเปิดสภาเพื่อขออนุมัติ หน่วยงานหลักก็คือ กระทรวงมหาดไทย อยากบอกพี่น้องชาวปทุมธานี ก็จะทำเต็มความสามารถที่มี


ซึ่งถ้ากระทรวงมหาดไทยจะเบรกก็ไม่เป็นไร ผมก็ต้องหาแนวทางกันต่อไป แต่ขณะนี้ทางนายก อบจ.ทั้ง 76 จังหวัด ให้ความไว้วางใจตน เลือกให้เป็นตัวแทนของพวกเขา รวมเป็นคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ร่วมประชุมเป็นตัวแทนของนายก อบจ.ทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งผมก็หารือปัญหานี้ ไม่ใช่ว่าจังหวัดปทุมธานีจะได้วัคซีนเพียงแห่งเดียวทุกจังหวัดที่ขอมาก็ต้องได้เหมือนกัน