ททท.ชง ‘ศบศ.’ เคาะเปลี่ยนไทม์ไลน์ กางสูตรใหม่ 4 พื้นที่นำร่องรับทัวริสต์เร็วขึ้น!

ททท.ชง ‘ศบศ.’ เคาะเปลี่ยนไทม์ไลน์  กางสูตรใหม่ 4 พื้นที่นำร่องรับทัวริสต์เร็วขึ้น!

วานนี้ (31 พ.ค.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ประชุมออนไลน์ร่วมกับสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เพื่อหารือเรื่องแผนการ “เปิดประเทศ” พร้อมยืนยันถึงการเดินหน้าเปิดเมืองภูเก็ต ภายใต้โมเดล “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”

ในฐานะพื้นที่นำร่องแห่งแรกในการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเดินทางเข้ามาเที่ยวแบบไม่ต้องกักตัว เริ่มวันที่ 1 ก.ค.นี้ตามไทม์ไลน์เดิม มีสมาชิกแอตต้าเข้าร่วมรับฟังมากกว่า 500 คน

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า จากเดิมที่วางเงื่อนไขโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ไว้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติต้องอยู่ในพื้นที่ภูเก็ตครบ 7 คืน ถึงจะสามารถเดินทางไปพื้นที่อื่นๆ ทั่วไทยได้ แต่จากสถานการณ์การติดเชื้อในประเทศที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ต้อง “รอความชัดเจน” จากประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) อีกครั้ง หลัง ศบค.ได้ยกระดับการกักตัว ปรับจากเดิม 7 หรือ 10 วัน มาเป็น 14 วันสำหรับนักเดินทางทุกประเภทที่เดินทางเข้าไทยเมื่อปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ททท.ได้ตั้งเป้าหมายช่วงไตรมาส 3 ตั้งแต่ ก.ค.-ก.ย.2564 จะมีนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกลทั้งสหรัฐและยุโรปเดินทางเที่ยวภูเก็ตรวม 1.29 แสนคน ส่วนเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยปีนี้ ททท.ได้หารือกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ว่าจะยังคงเป้าหมายที่ 3-4 ล้านคน แม้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 5 แสนคนแล้วก็ตาม

และตามแผนการทำตลาด จะจัด “ทริป (ทด) ลองของใหม่” มีเอเย่นต์ทัวร์ KOL และสื่อมวลชน จำนวนราว 200 คน มาสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวภูเก็ตในภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นตลอดเดือน ก.ค.นี้ โดยในวันที่ 9 ก.ค.จะมีนักท่องเที่ยวจากสหรัฐ 20 คนเดินทางเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ถือเป็นกลุ่มแรกที่เดินทางเข้าไทยตามแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มฉีดวัคซีนครบโดสแล้วแบบไม่ต้องกักตัว นอกจากนี้สำนักข่าว CNN จะส่งทีมงานเข้ามาทำข่าวเตรียมความพร้อมของจังหวัดภูเก็ตเพื่อเผยแพร่ไปทั่วโลกด้วย

ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. กล่าวเสริมว่า ในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ ททท.จะเสนอให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน พิจารณากรณีมีบางจังหวัดหรือพื้นที่นำร่องขอ “เปลี่ยนไทม์ไลน์ใหม่” ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

162246357627

ประกอบด้วย 1.พังงา-เขาหลัก เสนอขอไม่กักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้เป็นต้นไป 2.กระบี่ ในพื้นที่เกาะพีพี ไร่เล และเกาะไหง ขอเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่เดือน ก.ค.นี้ เสนอกักตัวในรูปแบบ 1+2+4 คืน กล่าวคือวันที่ 1 กักตัว 100% ในห้องพัก วันที่ 2-3 สามารถใช้บริการและทำกิจกรรมต่างๆ นอกห้องพักในบริเวณโรงแรมได้ วันที่ 4-7 สามารถท่องเที่ยวได้ตามเส้นทางและโปรแกรมท่องเที่ยวที่กำหนดไว้ (Sealed Routes) โดยให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ในวันที่ 4-5 และเดือน ส.ค.นี้ขอขยายไปยังพื้นที่เกาะลันตา อ่าวนาง และทับแขก เสนอกักตัวในรูปแบบ 1+2+4 คืนเช่นกัน ก่อนจะเริ่มไม่กักตัวนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป

3.เกาะสมุย-พะงัน-เต่า ใน จ.สุราษฎร์ธานี ขอเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่เดือน ก.ค.นี้ เสนอให้จำกัดพื้นที่และท่องเที่ยวระบบปิดในรูปแบบ 0+3+4 คืน โดยวันที่ 0 ตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 1 และพักผ่อนในห้องพักเท่านั้น จากนั้นวันที่ 1-3 สามารถใช้บริการและทำกิจกรรมต่างๆ นอกห้องพักในบริเวณโรงแรมได้ วันที่ 4-7 ท่องเที่ยวได้ใน อ.สมุย ตามเส้นทางและโปรแกรมที่กำหนดไว้ และตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 และวันที่ 8-14 ท่องเที่ยวได้ภายในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า หากออกนอกพื้นที่จะต้องขออนุญาตศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) ในพื้นที่เท่านั้น

และ 4.เชียงใหม่ เสนอให้กักตัวนักท่องเที่ยวในโรงแรมเป็นเวลา 7 คืน รูปแบบ 0+7 คืน ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ อ.แม่ริม อ.แม่แตง และ อ.ดอยเต่า ตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้ โดยสามารถออกนอกห้องพักและออกไปทำกิจกรรมในเส้นทางที่กำหนดได้ ภายหลังการพำนักในพื้นที่ 7 คืน สามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆ ในไทยได้ ก่อนจะเข้าสู่ไทม์ไลน์ไม่กักตัวนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป

ส่วนชลบุรี เสนอขอไม่กักตัวนักท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง และ อ.สัตหีบ ตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป ขณะที่พื้นที่นำร่องอีก 4 พื้นที่ใหม่ ได้แก่ กรุงเทพฯ ชะอำ หัวหิน และบุรีรัมย์ ซึ่งผ่านการเห็นชอบในหลักการจากคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา และเตรียมเสนอให้ ศบศ.และ ศบค.พิจารณาต่อไป โดยทั้ง 4 พื้นที่ดังกล่าวจะไม่กักตัวนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป