'สมรักษ์' แจ้งความแล้ว หลังโดนโกงลอตเตอรี่กว่า 11.7 ล้านบาท
"สมรักษ์" แจ้งความแล้ว หลังโดนโกงลอตเตอรี่กว่า 11.7 ล้านบาท
"นาวาตรี สมรักษ์ คำสิงห์" หรือ "เจ้าบาส" หลังจากที่เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากทนาย"รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์" ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ไปแล้วนั้นล่าสุด วันที่ 3 มิ.ย.64เวลา15.00 น. ทั้งคู่ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังถูกหลอกให้โอนเงินจองโควต้าลอตเตอรี่จำนวนหนึ่งมูลค่าเกือบ 60 ล้านบาท แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายส่งมอบล็อตเตอรี่ที่ได้โอนเงินจองไปแล้ว ปรากฎว่า บุคคลดังกล่าวไม่สามารถหาล็อตเตอรี่มาส่งมอบให้ได้แล้วบ่ายเบี่ยงอ้างเรื่องต่างๆนานา
โดย สมรักษ์ คำสิงห์ เผยก่อนหน้านี้ตนเองได้รับการขอร้องจากชาวบ้านกลุ่มหนึ่งให้ช่วยจัดหาโควต้าล็อตเตอรี่เพื่อนำไปขายต่อให้ที ตนก็สงสารอยากช่วยเหลือชาวบ้านจึงตัดสินใจไปเดินหายี่ปั้วที่มีโควต้าล็อตเตอรี่ย่านสนามบินน้ำ โดยมีคนที่ตนรู้จักเป็นคนพาไปพบพร้อมกับกลุ่มชาวบ้านจากจังหวัดสุรินทร์อีกจำนวนหนึ่ง ตามไปพบกับนี่ปั้วรายนี้ด้วย ซึ่งตามกติกาของการซื้อขายกับยี่ปั้วล็อตเตอรี่นั้น ต้องโอนจองก่อนล่วงหน้า 100 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หลังจากตกลงกันเสร็จแล้วในงวดแรก ชาวบ้านก็รวมเงินกันเจ้าบัญชีตนและก็ทำการโอนไปให้ยี่ปั้วรายนี้
จากนั้นเมื่อถึงเวลานัดหมายส่งมอบล็อตเตอรี่ก็มีรถแท็กซี่นำล็อตเตอรี่มาส่งให้ตนถึงที่บ้าน ทำให้ชาวบ้านก็เชื่อใจว่าการซื้อขายกับยี่ปั้วรายนี้ได้รับของจริง พอมาในครั้งที่สองชาวบ้านและกลุ่มคนต่างๆ ที่รู้จักกับตนก็มาฝากเงินให้ตนช่วยซื้อล็อตเตอรี่จากยี่ปั้วรายนี้เพิ่มขึ้น เป็นมูลค่าประมาณ 50 - 60 ล้านบาท ตนเองซึ่งเป็นคนกลางไม่ได้มีความรู้อะไรในเรื่องนี้ก็เห็นว่าโอนเงินให้ไปก็ได้ของมา ก็สั่งซื้อล็อตเตอรี่ในรอบที่สองไปก็โดนทันที
สมรักษ์ กล่าวว่า หลังถูกโกงอ้างบ่ายเบี่ยงไปต่างๆนานาเป็นเวลากว่า 4 เดือน ก็มีการนัดหมายจะใช้เงินคืนให้บ้าง โอนคืนมา 5 หมื่นบ้าง 2 แสนบ้าง แต่มันไม่เพียงพอที่จะไปใช้คืนให้กับชาวบ้านที่เขาเชื่อเขาลงทุนมา บางรายก็เหมารถมาตามมาปูเสื่อนอนรอที่หน้าบ้านตน ตนต้องนำเงินเก็บที่มีอยู่ 2 ล้านบาท ออกมาจ่ายแทนให้ชาวบ้านไปก่อน ก็ยังไม่พออีกจนต้องไปยืมเงินลูกอีกจำนวน 1.3 ล้านบาทมาจ่ายให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อน หลังจากนั้นตนก็ได้พยายามโทรติดตามยี่ปั้วรายนี้ว่าเมื่อไรจะได้เงินที่ยังติดค้างอยู่อีกทั้งหมดจำนวน 11.7 ล้านบาท ก็ถูกอ้างบ่ายเบี่ยงอีกเรื่อยมา อ้างว่าทางเจ้านายเขากำลังรอเคลียร์เงินเพื่อนำมาจ่ายให้อยู่ แต่ก็เงียบหายไปอีก จนกระทั่งเมื่อวานนี้ตนไปพบทนายรณรงค์ที่สำนักงาน เขาก็โทรมาหาตนแล้วอ้างว่าในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ จะนำเงินส่วนที่ติดค้างไว้มาคืนให้ทั้งหมด โดยเขาเองก็รู้จักกับทางรณรงค์เป็นอย่างดี ขอให้ตนอย่าเพิ่งเข้าแจ้งความ เพราะจะทำให้เขากับครอบครัวเสียหาย แต่ตนไม่หลงเชื่อแล้ว เคยเชื่อคำพูดเขามาเป็นร้อยครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับเงินคืนทั้งหมด ซึ่งก่อนที่จะเดินทางมาแจ้งความในวันนี้เขาก็ไลน์มาหาตนแล้วบอกว่า อย่าไปแจ้งความดำเนินคดีกับเขา เขาพร้อมที่จะเซ็นต์เช็คสั่งจ่ายให้ตนในวันนี้ก่อน 4 โมงเย็น แต่ตนไม่เชื่อถือเขาแล้ว ได้เช็คมาจะเด้งหรือเปล่าก็ไม่รู้ เมื่อปรึกษากับทนายรณรงค์แล้ว เห็นว่าถูกโกงแน่นอนจึงต้องเข้าแจ้งความดำเนินไว้เป็นหลักฐาน
นายสมรักษ์ กล่าวอีกว่า เมื่อทวงถามเรื่องเวินที่ติดค้างไปเขาก็จะอ้างเจ้านายอ้างผู้ใหญ่ไปเรื่อยจนตนถามไปว่าขอคุยกับเจ้านายเขาได้ไหม เขาก็บ่ายเบี่ยง นอกจากนี้ตนยังเพิ่งรู้มาอีกว่า ยังมีกลุ่มคนที่หลงเชื่ออีกประมาณ 4 - 5 กลุ่ม ที่ถูกหลอกจองโควต้าล็อตเตอรี่กับยี่ปั้วรายนี้อีก แต่วงเงินไม่สูงเท่ากับของตน เพราะในวงของตนนั้นนอกจากจะมีชาวบ้านจังหวัดต่างๆเป็นร้อยๆคนแล้ว ยังมีนักกีฬาทีมชาติประเภทต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่การกีฬาแห่งประเทศไทยที่ถูกโกงไปด้วย เฉพาะเจ้าหน้าที่คนนี้คนเดียวก็ลงทุนมาหนึ่งล้านบาทแล้ว จึงทำให้วงโควต้าล็อตเตอรี่ของตนมีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งหลังจากผ่านพ้นเรื่องนี้ไป ตนจะไม่ขอทำธุรกิจกับใครด้วยความเชื่อใจง่ายๆแบบนี้อีกแล้ว ความหวังที่จะได้เงินคืนตอนนี้ต้องฝากไว้ที่ทนายรณรงค์
ทางด้านทนายรณรงค์ กล่าวว่า ในวันนี้ได้พาสมรักษ์ คำสิงห์ เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงกับยี่ปั่วรายนี้แล้วตามความผิดอาญา พร้อมหลักฐานการโอนเงินซึ่งมีวงเงินประมาณ 50 - 60 ล้านบาท ในคดีนี้ตนอยากฝากเตือนไปยังประชาชนที่อยากลงทุนซื้อขายกับโควต้าล็อตเตอรี่ว่า ปัจจุบันมีมิจฉาชีพใช้วิธีการหลอกโอนเงินซื้อขายโควต้าล็อตเตอรี่จนเกิดความเสียหายเป็นวงเงินนับร้อยบล้านบาทและเกิดขึ้นบ่อยมาก คดีของสมรักษ์ คำสิงห์เองก็ไม่ต่างจากเคสที่ จ.ตราด ดังนั้นอย่าไปเห็นแก่ล็อตเตอรี่ราคาถูก ในยุคนี้การซื้อขายควรเป็นแบบเงินมาของไป ไม่ใช่เงินไปก่อนแล้วมารอรับของก็มีความเสี่ยงที่จะถูกโกงมากแล้ว
หลังจากเข้าแจ้งความดำเนินคดีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตนจะทำเรื่องให้ทางพนักงานสอบสวนสอบถามไปยังสำนักงานนกองสลากว่า ยี่ปั้วรายนี้มีโควต้าล็อตเตอรี่ตามที่มากล่าวอ้างจริงไหม ถ้าไม่มีจริงตามที่กล่าวอ้างมาก็แสดงว่ามีเจตนาฉ้อโกงมาตั้งแต่ต้น ซึ่งในคดีนี้หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามได้ไว ทางเราก็สามารถติดตามได้ไวเช่นกัน เพราะตอนนี้แม้ว่าทางสมรักษ์เองจะตกเป็นผู้เสียหายจากการถูกฉ้อโกง แต่ทางสมรักษ์เองก็ยังต้องรับผิดชอบความเสียหายที่ชาวบ้านได้โอนเงินเข้าบัญชีไปซื้อโควต้าล็อตเตอรี่นี้ด้วยเช่นกันแม้ว่าจะเป็นคนกลางก็ตาม