หุ้นอสังหาฯ สู่ “พร็อพเทค” ตลาดใหม่-ผู้ลงทุนดิจิทัล

 หุ้นอสังหาฯ สู่ “พร็อพเทค”   ตลาดใหม่-ผู้ลงทุนดิจิทัล

จากเทคโนโลยีดิสรัปชั่นในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจการเงินมาสู่“ยุคดิจิทัล” กำลังเป็นเทรนด์ธุรกิจมากขึ้น หลังเกิดโควิด -19 ช่วง 2 ปีจนเกิดพฤติกรรมการใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง  ทำให้เห็นรูปแบบธุรกิจใหม่กลายเป็นการเปิดกว้างในสกุลดิจิทัล

ธุรกิจอสังหาฯ ที่มีห่วงโซ่ซัพพรายเชนและมีผลต่อธุรกิจอื่นจำนวนมากกลายเป็นผู้ที่ปรับตัวได้เร็วและเข้าสู่ “พร็อพเทค หรือ Proptech   เป็นการนิยามการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยและเพิ่มความสะดวกสบายในโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งตัวอย่างที่มีให้เห็นชัดเจน เช่นการชมห้องตัวอย่างแบบเสมือนจริง Virtual Room Tour 360 ทำให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องมาที่สถานที่จริงแต่ได้ประสบการณ์เหมือนไปชมด้วยตัวเอง จนมาถึงการนำสกุลเงินดิจิทัลที่จับต้องไม่ได้ ไม่มีตัวกลาง  แต่กลับมีฐานผู้ลงทุนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จากทั่วทั้งโลกสะท้อนจากราคาเหรียญดิจิทัลที่ปรับตัวขึ้นทำนิวไฮก่อนหน้านี้ สะท้อนถึงความต้องการลงทุนได้อย่างดี้ แม้ว่าวันนี้ราคาซื้อขายเงินดิจิทัลจะปรับตัวลงมาแรงแต่ธุรกรรมที่เข้ามาเชื่อมโยงกับภาพธุรกิจจริงกลับเพิ่มขึ้นแทน

เช่น อี-คอมเมิร์ซสัญชาติจีน JD.com ประกาศจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานบางส่วนด้วยสกุลเงินหยวนดิจิทัล หรือ e-CNY หลังจากที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) วางแผนที่จะขยายการใช้งานของสกุลเงินดังกล่าวให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น  หรือสถาบันการเงินยักษ์ใหญ๋ เจพีมอร์แกน เตรียมเปิดตัวกองทุนคริปโตเคอเรนซี่เพื่อให้ลงทุน  ซึ่งวันนี้จะมีธนาคารกลางหลายประเทศออกมาระงับการใช้บริการสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้แต่เชื่อว่าเป็นการสกัดได้แค่ชั่วคราวเพื่อให้ธนาคารกลางๆมีเวลาออกกฎ กติกา หรือศึกษาออกสกุลเงินของตัวเองในอนาคต

ส่วนในไทยมีหลายบริษัทที่เปิดรับชำระเงินดิจิทัล ยิ่งในกลุ่มอสังหาฯ เรียกได้ว่ามาก่อนธุรกิจอื่นก็ว่าได้ โดยมีบริษัทจดทะเบียนอสังหารายแรกที่ประกาศอย่างเป็นทางการ ค่ายอนันดา บริษัทอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN  ร่วมมือกับ Bitkub ผู้ให้บริการระบบการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและผู้ให้บริการเทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโทเคอเรนซี่

โดยสามารถนำมาชำระเงินซื้อขายบ้านและคอนโดมิเนียม ทุกโครงการผ่านคริปโทเคอเรนซี ผ่าน Wallet ของบิทคับ ซึ่งเปิดรับเงินสกุลคริปโทฯ ที่ได้รับการยอมรับในตลาดโลก 3 สกุลประกอบด้วยอีเธอเรียม (Ethereum - ETH) เทเทอร์ (Tether USD - USDT) และบิทคอยน์ (Bitcoin - BTC)

เช่นเดียวกับค่าย ออริจิ้น บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI พึ่งประกาศรายล่าสุด เปิดช่องทางให้ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทุกโครงการด้วยคริปโทเคอร์เรนซี เบื้องต้นบริษัทจะรองรับการซื้อขายบ้านและคอนโดมิเนียม 3 สกุล อีเธอเรียม -เทเทอร์  และบิทคอยน์

ทั้งสองรายเป็นการเพิ่มช่องทางสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ในตลาดใหม่ที่กำลังจะได้รับความสนใจมากขึ้น ในอนาคต   แต่ที่สร้างแรงกระเพื่อในแวดวงอสีงหาอีกระลอกคือการกระโดดเข้าไปลงทุนธุรกิจที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัลของ ค่าย แสนสิริ  บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI  

ด้วยการลงทุน 1,653 ล้านบาท  จำนวน  403 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ  4.10 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนถือหุ้น 15 %  ในบริษัท เอ็กซ์สปริง  แคปปิตอล  จำกัด (มหาชน) หรือ XPG ซึ่งเดิมคือ บริษัท ซีมิโก้ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO 

 ดีลแรกหลังที่ XPG  ได้รับใบอนุญาตที่ปรึกษาการเงินสินทรัพย์ดิจิทัลจากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้วนั้นคือการปั้นโทเคน สิริฮับ  เพื่อระดมทุน 2,400 ล้านบาท จำนวน 240 ล้านโทเคนที่ราคาละ 10 บาท เพื่อนำไปลงทุนในกลุ่มอาคาร สิริแคปปัส ซึ่งเคยเป็นของกลุ่ม SIRI ก่อนจะออกไปในปี 2562

ส่งผลทำให้ SIRI ไม่ได้เป็นเพียงผู้รับชำระเงินดิจิทัลเหมือนค่ายอสังหาฯรายอื่น แค่กลายเป็นผู้ที่ให้บริการระดมทุนด้วยเงินดิจิทัลแทน  ผ่านการเข้าไปถือลงทุนใน XPG  จึงทำให้กลายเป็นธุรกิจใหม่หรือ S cuve สำหรับภาคอสังหาฯ ไปด้วย

เมื่อดูผู้เล่นรายใหญ่ที่อยู่นอกตลาดยังสนใจไม่น้อย กลุ่มบริษัท 1.6 ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ร่วลงทุนกับกลุ่ม แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC)  จับมือแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของเอเชีย Zipmex  ได้เปิดให้นักลงทุนซื้อ-ขายอสังหาฯ ด้วยเหรียญคริปโทฯ

ปัจจุบันลูกค้าที่อยากซื้ออสังหาฯเป็นของตัวเองและสนใจลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลสามารถจ่ายค่ามัดจำด้วยสกุลเงินได้ เพียงแต่ยังไม่สามารถที่จะโอนกรรมสิทธิ์งวดสุดท้ายด้วยสกุลเงินอื่นได้  ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคต(อันใกล้) มีโอกาสได้เห็นการซื้อขายเต็มรูปแบบเกิดขึ้นในที่สุด