การเงิน
ASW ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ 5 พันล้าน เล็งเปิด 2 โครงการใหม่ครึ่งหลัง
Play
“แอสเซทไวส์” มั่นใจรายได้ปี 64 เติบโตตามแผน 5,000 ล้านบาท โควิดไม่กระทบยอดขาย เล็งเปิด 2 โครงการใหม่ครึ่งหลัง มูลค่า 3.9 พันล้าน พร้อมเผยความคืบหน้า JV พันธมิตรญี่ปุ่น คาดชัดเจนภายในปีนี้
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจเป้าหมายรายได้ปี 2564 จะเติบโตได้ตามแผนที่ 5,000 ล้านบาท หรือราว 20% จากปีก่อน โดยปัจจัยหนุนมาจากยอดจองอสังหาริมทรัพย์ และยอดโอนที่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากโครงการพร้อมเข้าอยู่อาศัย (Ready to Move) และโครงการใหม่ที่คาดว่าจะทยอยเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แม้ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทจะเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 รอบ 3 แต่ยอดขายยังมีแนวโน้มเป็นไปตามแผนงานที่ 5-7 พันล้านบาทในปีนี้
สำหรับโครงการใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ได้แก่ โครงการ "เคฟ ทียู" (Kave TU) มูลค่าโครงการ 1.8 พันล้านบาท และโครงการ "โมดิซ สุขุมวิท 50" (Modiz Sukhumvit 50) มูลค่าโครงการ 2.1 พันล้านบาท คาดว่าจะพร้อมเปิดการขายในไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ของปีนี้ ตามลำดับ โดยโครงการใหม่จะหนุนให้ยอดขายรอโอน (แบ็คล็อก) ของบริษัทเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากเดิมอยู่ที่ระดับ 7.5 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ปีนี้ราว 4.7 พันล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายธุรกิจผ่านการร่วมทุน (JV) กับพันธมิตรใหม่สัญชาติญี่ปุ่นที่มีการเจรจากันตั้งแต่ในช่วงโควิด-19 โดยในไตรมาส 2 ที่ผ่านมามีความคืบหน้าที่ชัดเจนมากขึ้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ ทั้งนี้ บริษัทยังมีพันธมิตรอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างเจรจา แต่ติดปัญหาเรื่องการเดินทางมาดูพื้นที่โครงการจริงจากผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 แต่คาดว่าจะเห็นความชัดเจนมาขึ้นในช่วงปลายปี 2564 รวมถึงอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อเข้าซื้อโครงการ (M&A) ใหม่อย่างต่อเนื่อง หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
สำหรับแผนระยะยาว บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 20% และรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เติบโตไม่ต่ำกว่า 35% จากปัจจุบันที่ 30-40% จากกลยุทธ์การพัฒนาโครงการบนที่ดินที่มีต้นทุนต่ำ (ซื้อที่ดินไว้ล่วงหน้า และหรือซื้อที่ดินผืนใหญ่เพื่อเตรียมพัฒนาเฟสถัดไปในอนาคต) รวมถึงมุ่งพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบอื่นเพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้แก่บริษัท เช่น ศูนย์การค้าขนาดเล็ก (Community Mall)
เมื่อสอบถามถึงนโยบายปันของ ASW นายกรมเชษฐ์ กล่าวว่า บริษัทมีนโยบานปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ โดยอยู่ระหว่างพิจารณาแบ่งจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง
