SECURE เคาะราคาไอพีโอ 16 บาท พร้อมเทรด 1 ก.ค.นี้
"เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว" เคาะขายไอพีโอหุ้นละ 16 บาท เตรียมเปิดให้จองซื้อวันที่ 23-25 มิ.ย. พร้อมเข้าซื้อขายตลาดหุ้น mai วันที่ 1 ก.ค.นี้
นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด (มหาชน) หรือ SECURE เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่่วไป (IPO) จำนวน 27.74 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 16 บาท คิดเป็นค่าพีอีเรโชว์ราว 25.75 เท่า
โดยมีกำหนดจะเปิดให้จองซื้อหุ้นดังกล่าวระหว่างวันที่ 23-25 มิ.ย.นี้ และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 1 ก.ค. โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า SECURE เข้าเทรดในหมวดเทคโนโลยี พร้อมกันนี้ยังมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 3 แห่ง ด้วยกันประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด
"การกำหนดราคาไอพีโอที่ระดับ 16 บาท ถือเป็นระดับที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีความน่าสนในอย่างมาก เนื่องจาก SECURE มีจุดเด่นในฐานะเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์โซลูชั่นด้านการรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีไซเบอร์ (Cyber security) ที่เป็นบริษัทของคนไทย ที่ผู้บริหารและทีมบุคลากรมีความเชี่ยวชาญสูงและน่าเชื่อถือ ขณะที่ฐานะทางการเงินมีความแข็งแกร่ง
และอนาคตมีโอกาสเติบโตได้ก้าวกระโดดตามแผนการบังคับใช้ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่คาดว่าจะมีผลบังคับในปี 2565 ส่งผลให้บริษัทฯ มีฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าการโรดโชว์ที่ผ่านมานักลงทุนให้การตอบรับอย่างล้นหลาม ทำให้มั่นใจว่าหุ้น SECURE จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจเช่นกัน"
นายนักรบ เนียมนามธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อยากให้ผู้ลงทุนได้มีส่วนร่วมในการถือหุ้น SECURE และเติบโตไปพร้อมกัน ซึ่งบริษัทฯจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้สร้างศูนย์ให้บริการด้านเทคนิค (Technical Support Center) การลงทุนเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีไซเบอร์(Cybersecurity) การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัทฯ ให้มีความแข็งแกร่งและมีอัตราการเติบโตที่ดีในอนาคต
"การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยให้บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นจากเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น และเป็นการเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้สามารถรับงานองค์กรขนาดใหญ่ในอนาคต พร้อมๆ กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และซอฟต์แวร์ด้าน Cybersecurity รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการให้กับลูกค้าจากการสร้างศูนย์ให้บริการด้านเทคนิค และขยายทีมบุคลากรในฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้าน Cybersecurity ตลอดจนสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในระดับที่ดีได้ต่อเนื่อง"