เฒ่าอังกฤษสุดอึด‘ติดโควิด 10 เดือน’ กว่าจะหาย

เขาผู้นั้นคือนายเดฟ สมิธ ครูสอนขับรถวัยเกษียณจากเมืองบริสตอลทางตะวันตกของอังกฤษ ที่นายเอ็ด มอแรน ที่ปรึกษาด้านโรคติดเชื้อ มหาวิทยาลัยบริสตอลและกองทุนเอ็นเอชเอสนอร์ธบริสตอลเผยว่า นายสมิธมีเชื้อไวรัสในร่างกายตลอดเวลา

“เราพิสูจน์ได้ด้วยการส่งตัวอย่างไวรัสของเขาไปให้มหาวิทยาลัยพันธมิตรเพาะเลี้ยง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า ไม่ใช่แค่ไวรัสตกค้างที่ทำให้ตรวจพีซีอาร์เจอ แต่เป็นไวรัสจริงๆ”

ด้านเจ้าตัวเผยกับสถานีโทรทัศน์บีบีซีว่า เขาตรวจเจอโควิด 43 ครั้ง เข้าโรงพยาบาล 7 ครั้งและวางแผนจัดงานศพไว้แล้ว

“ผมเตรียมตัวตายแล้ว เรียกครอบครัวมาสั่งเสีย ขออโหสิกรรมกับทุกคน และกล่าวอำลา”

ขณะที่ลินดา ภรรยาผู้กักตัวอยู่ในบ้านกับสมิธ ระบุ “มีหลายครั้งที่เราไม่คิดว่าเขาจะรอด ช่างเป็นปีแห่งนรก”

นายสมิธหายป่วยหลังได้รับการรักษาโดยแอนติบอดีสังเคราะห์ผสมหลายสูตร พัฒนาโดย “รีเจเนอรอน” บริษัทไบโอเทคสหรัฐ วิธีนี้ยังไม่ได้รับอนุมัติทางคลินิกให้ใช้ในอังกฤษ แต่ที่ใช้ได้กับนายสมิธเพราะเคสนี้ช่างน่าเห็นใจเหลือเกิน

ผลการทดลองทางคลินิกเผยแพร่ในเดือนนี้ชี้ว่า การใช้แอนติบอดีสังเคราะห์ผสมหลายสูตรลดการเสียชีวิตในหมู่ผู้ป่วยโควิดรุนแรงที่ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงได้

สำหรับนายสมิธหลังจากใช้ยาของรีเจเนรอนไป 45 วัน หรือหลังจากติดเชื้อครั้งแรกราว 305 วันก็ตรวจไม่เจอโควิดเขาและภรรยาถึงกับเปิดแชมเปญฉลอง

“เหมือนคุณได้รับชีวิตกลับคืนมา” เฒ่าทรหดเผยกับบีบีซี

การรักษานายสมิธไม่ได้อยู่ในการทดลองทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ แต่เป็นการศึกษาของนายแอนดรูว์ เดวิดสัน นักไวรัสวิทยาจากมหาวิทยาลัยบริสตอล ที่ต้องส่งรายงานเคสนายสมิธไปให้สภาโรคติดเชื้อและจุลชีววิทยาแห่งยุโรปในเดือน ก.ค. เขาเชื่อว่า นายสมิธคือผู้ติดเชื้อโควิดนานที่สุดในโลกที่บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

นักวิจัยรายนี้ยอมรับ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าไวรัสซ่อนตัวอยู่ที่ไหนในร่างกาย และทำให้เกิดการติดเชื้อต่อเนื่องได้อย่างไร

 นายสมิธนั้นเคยป่วยด้วยโรคปอดและตอนที่ติดโควิดในเดือน มี.ค.2563 ก็เพิ่งหายจากลูคีเมีย เขาเผยกับเดอะการ์เดียนว่า ตั้งแต่หายป่วยเขายังคงหายใจหอบ แต่ได้เดินทางในอังกฤษและกำลังสอนหลานสาวขับรถ

“ผมเคยถึงจุดต่ำสุดมาแล้วตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างสดใส”