ความสัมพันธ์ครอบครัว ต้นเหตุ "กวิน" มอบตัว-วางปืน
คดีของ “กวิน อดีตพลทหารรบพิเศษ” มีการนำไปเปรียบเทียบกับคดีเหตุกราดยิงของ “จ่าโคราช” เมื่อช่วงต้นปี 2563 จากข้อสงสัยที่เกิดขึ้น
“ทีมข่าวข้นคนข่าว” ได้สอบถามเรื่องนี้กับ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา ม.รังสิต ซึ่งมีมุมมองที่น่าสนใจว่า จากคดีของนายกวิน มีความเหมือนและความแตกต่างกับคดีของจ่าโคราช ที่จังหวัดนครราชสีมา หลายประเด็น
เริ่มจากความคล้ายคลึงกันของพฤติกรรมการก่อเหตุ ก็คือ ตัวของนายกวิน เป็นอดีตพลทหารรบพิเศษ ซึ่งก็คล้ายกับคดีจ่าโคราชที่ในตอนที่ก่อเหตุก็รับราชการทหารเช่นกัน และผู้ต้องหาทั้งสองราย มีปมเหตุมาจากความคับแค้นใจในชีวิต รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียในการตอบโต้กับสังคม
แต่สิ่งที่แตกต่างระหว่างคดีของนายกวินและจ่าโคราช ก็คือ กรณีของจ่าโคราช เลือกที่จะต่อสู้จนเสียชีวิต แต่นายกวินกลับแตกต่าง เนื่องจากยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้อาจมาจากสาเหตุที่นายกวิน ได้กลับไปบ้านที่จังหวัดระนอง และได้มีการพูดคุยกับคนในครอบครัวที่มีความไว้วางใจ (คุณย่าที่นอนป่วยติดเตียง) จึงทำให้เขากลับมามีสติและเกิดเปลี่ยนใจยอมมอบตัวกับตำรวจ ซึ่งสาเหตุจากการเปลี่ยนใจอาจมาจากสายสัมพันธ์แห่งความรักและความผูกพันระหว่างนายกวินและคุณย่าที่เป็นผู้เลี้ยงดูเขาในวัยเด็ก หากสังเกตหลายคดีที่เจ้าหน้าที่นำบุคคลในครอบครัวไปเจรจากับผู้ก่อเหตุ จะพบว่า บางคดี เจ้าหน้าที่จะนำคุณแม่ไปเจรจา บางคดีจะนำภรรยาไปพูดคุย ซึ่งคดีของนายกวินก็เช่นกัน
ส่วนกรณีการลอกเลียนพฤติการณ์ก่อเหตุแบบคดีของจ่าโคราชกับคดีของนายกวินนั้น มีแนวโน้มที่เป็นไปได้ ซึ่งสาเหตุมาจากความต้องการความสนใจจากสังคม ฉะนั้น จะเห็นได้ว่า ตัวของนายกวินมีวิธีการสื่อสารปมความคับแค้นในจิตใจ และต้องการให้สังคมได้รับรู้เรื่องราวชีวิตที่เกิดขึ้น และการสร้างตัวตนให้เป็นที่รู้จักในโซเชียลมีเดีย รวมถึงการแต่งกายด้วเครื่องแบบทหาร ซึ่งเป็นอาชีพสิ่งที่ตัวเขาใฝ่ฝัน
แต่สิ่งที่น่ากังวลก็คือ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า สังคมไทยมักจะสนใจเรื่องของคนอื่นก็ต่อเมื่อเกิดเหตุความรุนแรงในสังคมวงกว้าง ซึ่งหลายคนที่มีภาวะความอ่อนแอทางจิตใจ อาจจะไม่สามารถพูดคุยกับใครได้เลย จึงเลือกใช้วิธีนี้
นอกจากนี้ หากสังเกตจากพฤติกรรมของนายกวิน นับตั้งแต่เริ่มยิงคนในร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะไปยิงเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลสนาม แสดงให้เห็นถึงภาวะที่เรียกว่า “จิตหลุด” เพราะเขาอาจจะรู้ตัวเองว่า ได้ก่อเหตุยิงคนอื่นเสียชีวิตแล้ว ทำให้สติสัมปะชัญญะหลุดไป และรวมไปถึงการดื่มสุราจนเกิดอาการเมาที่เป็นตัวกระตุ้นอีกทาง