‘Home Isolation’ แยกกักตัวอยู่บ้าน ต้องทำอย่างไร?? ให้ปลอดภัย
ผ่านไปแล้ว 2 วัน สำหรับการดำเนินการตามแนวทางการดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่บ้าน ‘Home Isolation’ หรือ ‘แยกกักตัวที่บ้าน’ ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกำหนดเฉพาะในพื้นที่ กทม. ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.2564
โดย แนวทางการดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่บ้าน ‘Home Isolation’ หรือ ‘แยกกักตัวที่บ้าน’ ต้องอยู่ภายใต้การพิจารณาของบุคลากรการแพทย์ และอยู่ในระบบการตรวจสอบ ติดตามอาการ หากอาการเปลี่ยนแปลงก็มีระบบส่งต่อไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลนั้น
แต่ทั้งนี้ ใช่ว่า ‘ผู้ป่วยโควิด 19’ กลุ่มสีเขียวทุกคน จะต้อง ‘Home Isolation’ หรือ ‘แยกกักตัวที่บ้าน’
- แนวทาง ‘Home isolation’ สำหรับ‘ผู้ป่วยโควิด 19’
โดยทาง ‘กรมการแพทย์’ ได้เผยแพร่แนวทาง ‘Home isolation’ สำหรับ ‘ผู้ป่วยโควิด 19’ มีดังนี้
- ระหว่างรอ admit โรงพยาบาล
- แพทย์พิจารณาว่ารักษาที่บ้านได้
- รักษาที่โรงพยาบาลหรือสถานที่รัฐจัดให้อย่างน้อย 10 วันและจำหน่ายกลับบ้านเพื่อรักษาต่อเนื่องที่บ้านโดยวิธี Home isolation
- เช็คผู้ที่เข้าเกณฑ์การทำ ‘Home isolation’
ขณะที่ ผู้ที่เข้าเกณฑ์การทำ ‘Home isolation’ มีดังนี้
1.เป็นผู้ติดเชื้อที่สบายดีหรือ ไม่มีอาการ (asymptomatic cases)
2.มีอายุน้อยกว่า 60ปี
3.มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
4.อยู่คนเดียว หรือ มีผู้อยู่ร่วมที่พักไม่เกิน 1คน
5.ไม่มีภาวะอ้วน (ภาวะอ้วน หมายถึง ดัชนีมวลกาย > 3030กก./ม.2 หรือ น้าหนักตัว > 90 กก.)
6.ไม่มีโรคร่วม ดังต่อไปนี้ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคไตเรื้อรัง (CKD Stage 3,4 ) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคอื่นๆตามดุลยพินิจของแพทย์
7.ยินยอมแยกตัวในที่พักของตนเอง
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยที่ขยายเป็นวงกว้างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งอาจทำให้การรองรับของสถานพยาบาลไม่เพียงพอต่อปริมาณผู้ป่วย 'กรมการแพทย์' จึงได้มีแนวทางปรับการรักษาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยให้กลุ่มผู้ป่วยที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ สามารถกักตัวรักษาได้ที่บ้าน ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ พยาบาล ซึ่งจะทำให้โรงพยาบาลสนาม สามารถบริหารจัดการเตียงให้กับ 'ผู้ป่วยโควิด 19' ที่มีอาการหนักได้
- ย้ำการปฎิบัติตัวเมื่อ ‘Home isolation’
โดยระหว่างนั้นให้ปฏิบัติ ดังนี้
1.ห้ามผู้ใดมาเยี่ยมบ้านระหว่างแยกกักตัว
2.ไม่เข้าใกล้หรือสัมผัสกับผู้สูงอายุหรือเด็กอย่างเด็ดขาด โดยรักษาระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร
3.แยกห้องพัก ของใช้ส่วนตัวกับผู้อื่น หากแยกห้องไม่ได้ควรแยกบริเวณที่นอนให้ห่างจากคนอื่นมากที่สุด และควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ควรนอนร่วมกันในห้องปิดที่ใช้เครื่องปรับอากาศ
4.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน ควรรับประทานในห้องของตนเอง หรือหากรับประทานอาหารด้วยกันควรแยกรับประทานของตนเองไม่รับประทานอาหารร่วมสำรับเดียวกันหรือใช้ช้อนกลางร่วมกัน และรักษาระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 2 เมตร
5.สวม 'หน้ากากอนามัย' หรือ หน้ากากผ้า ตลอดเวลาที่จะออกมาจากห้องที่พักอาศัย
6.ล้างมือด้วยสบู่หรือทำความสะอาดมือด้วย Alcohol gel ทุกครั้งที่จำเป็นจะต้องสัมผัสกับผู้อื่นหรือหยิบจับของที่จะต้องใช้ร่วมกับผู้อื่น
7.แยกซักเสื้อผ้า ผ้าขนหนู และเครื่องนอน ด้วยน้ำและสบู่หรือผงซักฟอก ควรใช้ห้องน้ำแยกจากผู้อื่น หากเลี่ยงไม่ได้ ให้ใช้คนสุดท้าย ปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำและหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ
สิ่งสำคัญที่สุด คือ หมั่นสังเกตอาการตนเอง วัดอุณหภูมิทุกวัน หากมีอาการแย่ลง คือ มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ เช่น หอบ เหนื่อย ไข้สูงลอย ไม่สามารถปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ ให้รีบโทรติดต่อโรงพยาบาลที่ท่านรักษาอยู่ และเมื่อต้องเดินทางไปโรงพยาบาลให้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ไม่ใช้รถสาธารณะ พร้อมใส่ 'หน้ากากอนามัย'ตลอดเวลาที่เดินทาง หากมีผู้ร่วมยานพาหนะมาด้วย ให้เปิดหน้าต่างรถเพื่อเพิ่มการระบายอากาศเพื่อความปลอดภัยแต่คนรอบข้าง