เดือดร้อน! นักศึกษา มข. หอบ 10,000 รายชื่อ จี้อธิการบดี ลดค่าเทอม 30%
โควิดวิกฤติเดือดร้อน! นักศึกษา มหา'ลัยขอนแก่น หอบ 10,000 รายชื่อ จี้อธิการบดี-ผู้บริหาร ลดค่าเทอม 30% พร้อมทบทวนการจัดสรรวัคซีนที่เป็นธรรม
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 ก.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. ได้มีกลุ่มนักศึกษาจากพรรคปฎิวัติมอดินแดง รวมกว่า 20 คน นำบัญชีรายชื่อนักศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น 10,000 รายชื่อ เข้ายื่นเรื่องต่อคณะผู้บริหาร มข. เพื่อทบทวนการลดค่าเทอมและค่าหน่วยกิต รวมไปถึงการร้องเรียนให้มหาวิทยาลัยจัดสรรวัคซีนให้กับนักศึกษาทั้งวัคซีนที่รัฐจัดสรรและวัคซีนทางเลือกให้กับนักศึกษาอย่างรวดเร็วและครอบคลุม
แต่ด้วย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มข. ติดภารกิจ จึงมอบหมายให้ รศ.ดร.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดี มข. ฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ รับเรื่องและพูดคุยกับแกนนำนักศึกษาดังกล่าว
นายนนทศักดิ์ สีสุดชา แกนนำพรรคปฎิวัติมอดินแดง มข. กล่าวว่า การออกมารวมตัวเพื่อแสดงเจตนารมร์ที่ถูกต้องตามการเรียกร้องที่นักศึกษาได้ต่อสู้มา โดยเฉพาะค่าเทอม ที่ มข. จะต้องทบทวนใหม่และลดค่าเทอมให้นักศึกษาในจำนวนร้อยละ 30
เนื่องจากกระบวนการการเรียนการสอนขณะนี้ทั้งหมดเป็นไปแบบออนไลน์ แต่การเก็บค่าเทอมยังคงเท่าเดิม และแม้จะลดค่าเทอมลงมาแล้ว 2 ภาคการศึกษาคือร้อยละ 10 แต่ขณะนี้ภาพรวมทางเศรษฐกิจของไทยนั้นย่ำแย่อย่างมาก ผู้ปกครองล้วนได้รับผลกระทบจากการทำมาค้าขายที่ยาก เศรษฐกิจฝืดเคือง
ขณะที่บุตรหลานจะต้องมาเรียนหนังสือแบบออนไลน์ ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมคือค่าอินเตอร์เน็ต อุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียน รวมไปถึงค่าไฟฟ้าที่ต้องเสียมากขึ้น แต่ต้องมาเสียค่าเทอมเท่าเดิม นักศึกษา มข.จึงพร้อมใจกันลงรายชื่อเพื่อให้มหาวิทยาลัยฯได้ทบทวนในเรื่องดังกล่าวด้วย
“นักศึกษาทุกระดับและทุกชั้นปีทั้งมหาวิทยาลัยมีกว่า 30,000 คน วันนี้มารวมพลังและแสดงพลังเรียกร้องให้มีการทบทวนในเรื่องค่าเทอม ที่จะต้องลดลงร้อยละ30 ซึ่งจากจำนวนนักศึกษาที่พร้อมใจกันลงลายมือชื่อมาขนาดนี้ หวังว่าผู้บริหารมหาวิทยาลัยจะต้องทบทวนเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน รวมไปถึงในเรื่องของการจัดสรรวัคซีน และทุนการศึกษา ที่จะต้องมีการบริหารจัดการที่เด่นชัด ชัดเจน และตรวจสอบได้ ซึ่งพรรคปฎิวัติมอดินแดง มข.จะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด”
นายนนทศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า การบริหารของรัฐบาลชุดปัจจุบันชัดเจนว่าทำอะไรไม่ได้ต่อไปแล้ว วันนี้เศรษฐกิจทรุดลงอย่างมาก การบริหารงานด้านวัคซีน และการควบคุมสถานการณ์โควิดก็สอบตก ผลกระทบที่เด่นชัดคือผู้ปกครองทุกคนที่ต้องหาเช้ากินค่ำ ขายของก็ไม่ได้ พนักงานบริษัทเงินเดือนก็ยังคงถูกลด บางคนหยุดงานแบบไม่รับเงินเดือน ทำให้สภาพคล่องตอนนี้นั้นขัดสนอย่างมาก
ซึ่งรัฐบาลจะต้องทบทวนในเรื่องของค่าเทอมและค่าบำรุงการศึกษา ในกลุ่มสถานศึกษาของรัฐ ทั้งระดับอนุบาล ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ที่จะต้องงดเก็บค่าเทอมไปเลย เพราะจะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก อีกทั้งการเรียนยังคงเป็นแบบออนไลน์ ที่ทุกครอบครัวจะต้องแบกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มากขึ้น ดังนั้นหากรัฐบาลชัดเจนในการงดเก็บค่าเทอมให้กับทุกคนในช่วงที่โควิดระบาดก็จะเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างมากในขณะนี้