สรรพากรชี้แจงล่าสุด Easy E-Reciept ลดหย่อนภาษี สูงสุด 50,000 บาท
อัปเดต กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ชี้แจงล่าสุด Easy E-Reciept ลดหย่อนภาษี สูงสุด 50,000 บาท
กรุงเทพธุรกิจ เกาะติดอัปเดตจาก กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ชี้แจงล่าสุด Easy E-Reciept ลดหย่อนภาษี สูงสุด 50,000 บาท
จากที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเรื่อง Easy E-Reciept ลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท สำหรับการใช้จ่ายในวันที่ 15 ม.ค.2568 ถึงวันที่ 28 ก.พ.2025 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
กรณีที่มีการบอกต่อกันว่า โครงการ Easy E-Reciept ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท สำหรับการใช้จ่ายในวันที่ 15 ม.ค. – 28 ก.พ.68 ทางกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูล และชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนเรื่องวันที่ เนื่องจากคณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567
อนุมัติหลักการมาตรการ “Easy E-Receipt 2.0” ซึ่งเป็นการขยายผลจากมาตรการเดิม "Easy e-Receipt" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในปี 2568 โดยให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล) หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2025 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง และสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เท่านั้น
ดังนั้น ขอเตือนว่าข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ เป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าวเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง สามารถติดตามได้ที่ https://www.rd.go.th หรือโทรศัพท์สายด่วน 1161
ดังนั้น ข้อมูลดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนเรื่องวันที่ โดยข้อมูลที่ถูกต้องคือ เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 และเป็นการขยายผลจากมาตรการ "Easy e-Receipt" เดิม
อ้างอิง กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์