จีนขู่ห้ามคนไม่ฉีดวัคซีนไปที่สาธารณะ

หลังจากโควิดสายพันธ์ุเดลตาที่ติดต่อกันได้ง่ายกว่าเล่นงานไปทั่วเอเชีย เมืองชั้นสองจำนวนหนึ่งออกระเบียบใหม่ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น เป็นไปได้ว่าต่อไปจะบังคับใช้ทั่วประเทศ

รัฐบาลท้องถิ่นเมืองชูเซียง มณฑลยูนนานทางภาคใต้ของประเทศ ประชากรราว 510,000 คน ประกาศเมื่อคืนวันพุธ (14 ก.ค.) ว่า ประชาชนทุกคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสภายในวันที่ 23 ก.ค. ใครไม่ปฏิบัติตามจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสถานที่สาธารณะ เช่น โรงพยาบาล บ้านพักคนชรา โรงเรียนอนุบาล โรงเรียน ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ เรือนจำ หรือห้ามขึ้นรถสาธารณะ หลังจากนั้นหนึ่งเดือนสถานที่สาธารณะจะเปิดรับเฉพาะคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว 2 โดส

คำสั่งแบบเดียวกันนี้ยังพบในเมืองและอำเภออย่างน้อย 12 แห่งทั่วประเทศ รวมถึง 6 แห่งในมณฑลเจียงซีทางภาคตะวันออก 1 แห่งในมณฑลเสฉวน 1 แห่งในกวางสี และ 3 แห่งในฝูเจี้ยน หลายที่เผยว่า ต้องการฉีดวัคซีนประชาชนให้ได้70-80% ภายในเดือน ก.ย. สูงกว่าเป้าของรัฐบาลปักกิ่งที่ตั้งใจฉีดวัคซีน 64% ของประชากร 1.4 พันล้านคนภายในสิ้นปี ซึี่งมาตรการใหม่ที่ออกมาบีบบังคับประชาชนสูงมาก

อำเภอเทียนเหอในมณฑลเหอหนานทางภาคกลางขู่ถ้าลูกจ้างภาครัฐคนใดไม่ฉีดวัคซีนภายใน 20 ก.ค. จะไม่จ่ายค่าจ้างให้และไล่ออก

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน มีอย่างน้อย 12 ที่ที่ส่งอาสาสมัครเข้าไปประจำการในสถานที่ราชการ สถานีรถไฟ และพื้นที่สาธารณะที่ผู้คนหนาแน่นอื่นๆ เพื่อจดชื่อและข้อมูลติดต่อคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน

ไม่ทราบแน่ชัดว่า มีการแบ่งปันข้อมูลนี้กับคณะทำงานป้องกันโควิดท้องถิ่นแล้วหรือไม่ แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกตอบโต้อย่างหนักในโลกออนไลน์

“ตอนแรกคุณบอกว่าการฉีดวัคซีนเป็นเรื่องของความสมัครใจ ตอนนี้กลับมาบังคับเรา”

“ฉันเพิ่งฉีดเข็มสองมา แต่นโยบายใหม่นี่ฟังดูเหมือนเป็นพระบรมราชโองการ ผิดหวังและขยะแขยงมาก”

เสียงชาวเน็ตระบายอารมณ์ผ่านเว่ยป๋อ

จีนประสบความสำเร็จในการสกัดโควิด-19 ระบาด จึงทำให้ประชาชนออกไปฉีดวัคซีนน้อยผสมโรงกับความกังวลเรื่องความปลอดภัย โครงการฉีดวัคซีนเริ่มต้นมาตั้งแต่ปีก่อนยังได้รับการตอบรับไม่มาก ทางการต้องเพิ่มมาตรการจูงใจหลายอย่าง นับถึงวันที่ 13 ก.ค. จีนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้วกว่า 1.4 พันล้านโดส แต่ไม่ระบุจำนวนประชาชนที่ฉีดแล้ว