ก.แรงงาน อนุมัติเงินกองทุนฯ 6.1 ล้านบาท บรรเทาลูกจ้างถูกลอยแพ
กระทรวงแรงงาน อนุมัติเงิน 'กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง' 6.1 ล้านบาท บรรเทาความเดือดร้อน ให้ลูกจ้าง บริษัท วายเอ็มพี เพรส แอนด์ ดายส์ (ไทยแลนด์) จำกัด จ.ชลบุรี ที่ถูกเลิกจ้าง ยังไม่ได้รับค่าชดเชยและค่าจ้างในวันหยุดพักผ่อนประจำปี
วันนี้ (16 กรกฎาคม 2564) นางโสภา เกียรตินิรชา รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวหลังเป็นประธานการมอบเงิน กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง แก่ลูกจ้างในจังหวัดชลบุรี ว่า จากนโยบายและข้อสั่งการของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้เร่งรัดดำเนินการให้ความช่วยเหลือลูกจ้างกรณีถูกเลิกจ้างและนายจ้างยังไม่จ่ายค่าชดเชย โดยนำเงินจาก กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง มาจ่ายเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกจ้างก่อน แล้วไปดำเนินการเรียกเก็บเงินจากนายจ้างมาคืนกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างต่อไป
โดยในวันนี้ได้มอบเงินให้แก่ลูกจ้าง บริษัท วายเอ็มพี เพรส แอนด์ ดายส์ (ไทยแลนด์) จำกัด จำนวน 85 คน เป็นเงิน 1,629,600 บาท ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชลบุรี จากกรณีที่ บริษัท วายเอ็มพี เพรส แอนด์ ดายส์ (ไทยแลนด์) จำกัด นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้าง จำนวน 351 คน และยังไม่จ่ายค่าชดเชยการเลิกจ้างและค่าจ้างในวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้าง
ทั้งนี้ ลูกจ้างได้ทยอยยื่นคำร้องที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จังหวัดชลบุรี พนักงานตรวจแรงงานได้มีคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยการเลิกจ้างและค่าจ้างในวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้าง และลูกจ้างใช้สิทธิขอรับเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ซึ่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้อนุมัติจ่ายให้แก่ลูกจ้างบริษัทดังกล่าวไปแล้วจำนวน 230 คน เป็นเงิน 4,529,280 บาท เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564
รวมอนุมัติเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างให้แก่ลูกจ้าง บริษัท วายเอ็มพี เพรส แอนด์ ดายส์ (ไทยแลนด์) จำกัด จำนวนรวม 315 คน เป็นเงิน 6,158,880 บาท พร้อมนี้ กรมยังได้มอบอาหารและสิ่งของอุปโภค รวมถึงหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับลูกจ้างบริษัทฯ ดังกล่าวด้วย
รองอธิบดี กสร. กล่าวเสริมว่า กรณีนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์จากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ในอัตราดังต่อไปนี้คือ (1) 30 เท่าของอัตราค่าจ้างรายวัน สำหรับลูกจ้างที่ทำงานติดต่อกันครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 3 ปี (2) 50 เท่าของอัตราค่าจ้างรายวัน สำหรับลูกจ้างที่ทำงานติดต่อกันครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี (3) 70 เท่าของอัตราค่าจ้างรายวัน สำหรับลูกจ้างที่ทำงานติดต่อกันครบ 10 ปี ขึ้นไป