'ถอนตัว' เพื่อไปต่อ ปมร้าว 'ปชป.' รอบใหม่

'ถอนตัว' เพื่อไปต่อ ปมร้าว 'ปชป.' รอบใหม่

หากประชาธิปัตย์ "เลือกพลาด" ไม่ว่าจะเป็นขั้วการเมืองใด ย่อมหมายถึงอนาคต "คน ปชป." จะกลับมายืนบนปากเหวอีกครั้ง

เสียงสะท้อนจาก "อันวาร์ สาและ" ..ปัตตานี ยื่นจดหมายเปิดผนึกลาออกจากตำแหน่ง "รองเลขาธิการ" พรรคประชาธิปัตย์ กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายในตำแหน่งกรรมการบริหารในวาระ "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" เป็นหัวหน้าพรรคในยุคการร่วมรัฐบาลพลังประชารัฐ

แต่กว่า 2 ปีในสถานการณ์ "เลือดไหล" จากบิ๊กเนมทยอยลาออกจากสมาชิกพรรคไปตั้งรกรากทางการเมืองแห่งใหม่ อาทิ พีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค วรงค์ เดชกิจวิกรม หรือกรณ์ จาติกวณิช ยังเป็นแผลที่สะท้อนเสถียรภาพภายในประชาธิปัตย์มาตลอดในยุค "จุรินทร์" เป็นหัวหน้าพรรค

ที่ผ่านมา "จุรินทร์" มักย้ำถึงเสถียรภาพภายพรรค จะเป็นจุดแข็งให้ประชาธิปัตย์เดินต่อไปได้คู่ขนานกับการจัดทัพเตรียมเลือกตั้งทั้ง 350 เขต ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นขุมกำลังหลักให้ "จุรินทร์" เตรียมเดินหน้าเลือกตั้งใหญ่ครั้งแรกในนาม "หัวหน้าพรรค" กับเป้าหมายจะได้ ..จากเดิม 52 ที่นั่งหรือไม่

ถึงแม้ขณะนี้ "จุรินทร์" กำลังเดินสายทัวร์กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อเร่งสร้างคะแนนนิยมรองรับการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้น แต่สถานการณ์ภายในที่ผ่านมา ยังมีคลื่นใต้น้ำบางส่วนกำลังรอจังหวะเหมาะสมเพื่อกระตุ้นท่าทีของพรรคในการร่วมรัฐบาล 

162644474816

162644485079

แต่ที่ผ่านมาการออกมาพูดของคลื่นบนน้ำอย่าง "อันวาร์" ตลอด 2 ปีมักถูกปฏิเสธข้อเรียกร้องกลับไปทุกครั้ง ตั้งแต่ครั้งที่เคยทำหนังสือถึงฝ่ายบริหารเมื่อ 28 ม.ค.2563 ให้กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันให้มีสมาชิกพรรคลาออก หรือสิ่งที่ "อันวาร์" เคยบอกถึงความรู้สึกได้มาจากบุคคลที่ลาออกจากพรรคไปเริ่มรู้สึกอึดอัด และไม่มีความสุขที่จะอยู่กับพรรคต่อไป

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่กลุ่ม ..ในพรรคปีกตรงข้าม "จุรินทร์" มองถึงผลการเลือกตั้งใหญ่เมื่อ 24 มี..2562 ทำให้พรรคประชาธิปัตย์บอบช้ำ สูญเสีย ..ไปหลายคน จึงเป็นโจทย์ที่ประชาธิปัตย์ต้องเร่งถอดบทเรียนให้ "โหวตเตอร์สีฟ้า" กลับมาสนับสนุนประชาธิปัตย์ให้มากกว่าเดิมในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

เสียงคนกลุ่มนี้มองว่า จากบทบาทพรรคร่วมรัฐบาลต้องไปในทิศทางเดียวกัน แต่ "ประชาธิปัตย์" ยุคนี้ไม่จำเป็นต้องเดินตามพรรคแกนนำทุกเรื่อง บนพื้นฐานว่าประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์อะไรหรือไม่

ขณะเดียวกันหากเจาะไปถึงกลุ่มก้อนภายในประชาธิปัตย์ยังคงแตกออกเป็น 3 ฝ่ายหลักๆ ประกอบด้วย 1.กลุ่มแรกต้องการร่วมรัฐบาลต่อไป 2.กลุ่มสองไม่ต้องการร่วมรัฐบาล และ 3.กลุ่มตรงกลางรอดูสถานการณ์

โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการพูดคุยถึงสถานการณ์นอกสภาฯ กดดันให้ประชาธิปัตย์ถอนตัวจากพรรคร่วม จากปัญหาการบริหารงานในสถานการณ์ "โควิด" ภายใต้รัฐบาล พล..ประยุทธ์ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ "คนใน" ประชาธิปัตย์กำลังอ่านสถานการณ์มาโดยตลอด

เพราะการอยู่ในเรือรัฐบาลต่อไปย่อมมีผลต่อคะแนนเสียงในอนาคต แต่หากสละเรือออกมาก็ไม่มีสิ่งใดการันตีว่าประชาธิปัตย์จะกลับมาเป็นรัฐบาลได้อีกครั้ง

ถึงแม้นโยบายประกันรายได้สินค้าเกษตรจะเป็น "ผลงานหลัก" ของประชาธิปัตย์ที่มั่นใจว่าจะได้คะแนนมาเป็นกอบเป็นกำ แต่อีกด้านหนึ่งมีการประเมินด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปยังถูกมองว่าเป็นการแข่งขันระหว่าง "ขั้วทางการเมือง" ซึ่งจะเข้มข้นรุนแรงมากกว่านโยบายปากท้อง

ในฐานะประชาธิปัตย์เป็นพรรคขนาดกลาง ซึ่งเป็น "ตัวแปร" สำคัญต่อทุกกลุ่มการเมืองในการตั้งรัฐบาล ทำให้อีกฝากหนึ่งเสียงจากกลุ่ม .. และอดีต ..ส่วนใหญ่ ยังสนับสนุนให้ประชาธิปัตย์ปักหลักเป็นพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป

162644472363

แต่อีกด้านปฏิเสธไม่ได้ว่า ..ในพรรค อาทิ อันวาร์ สาและ พนิช วิกิตเศรษฐ์ พยายามกระตุ้นให้ประชาธิปัตย์ปลดแอกท่าทีการร่วมรัฐบาล เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาธิปัตย์ได้เดินต่อไป โดยไม่เป็นนั่งร้านให้พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะพรรคการเมืองที่เสนอชื่อ พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังถูกตั้งคำถามถึงศักยภาพการบริหารประเทศ

แต่สถานการณ์ "โควิด" ขณะนี้แกนนำประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่นิ่งเงียบปล่อยให้รัฐบาลดำเนินการไปตามอำนาจของ "ศบค." เพราะไม่ว่าผลการแก้ปัญหาจะเป็นอย่างไร แรงกดดันจะพุ่งไปที่ผู้มีอำนาจสูงสุดอย่างพล..ประยุทธ์

สถานการณ์โควิดที่ยัง "ล็อกดาวน์" และยกระดับมาตรการหลายจังหวัด ทำให้ .. อดีต .. และผู้สมัครหลายคน ยังไม่เคลื่อนไหวต่อท่าทีประชาธิปัตย์ต่อพรรคร่วมรัฐบาล มีเพียง "อันวาร์" ที่ออกมาประกาศลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

แต่เมื่อไหร่ที่สถานการณ์โควิดมีแนวโน้มดีขึ้น จนนำไปสู่การประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคประจำปี 2564 ได้อีกครั้ง จะได้ยินเสียงสะท้อนที่มาจากทั้ง 3 กลุ่มดังไปถึงฝ่ายบริหารว่า จะ "ปักสมอ" ของประชาธิปัตย์ไปในทิศทางใดในการเลือกตั้งครั้งหน้า

เพราะหากประชาธิปัตย์ "เลือกพลาด" ไม่ว่าจะเป็นขั้วการเมืองใด ย่อมหมายถึงอนาคต "คน ปชป." จะกลับมายืนบนปากเหวคะแนนความนิยมอีกครั้ง.

162644467889