ฉีดวัคซีนฟรี เป็นสิทธิพื้นฐาน
สิ่งที่รัฐบาลควรตระหนัก คือ การเร่งหาวัคซีนด้วยการคิดนอกกรอบราชการ เพราะวัคซีนในภาวะวิกฤติถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนควรได้รับโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
การฉีดป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.2564 นับถึงวันที่ 18 ก.ค.2564 ประเทศไทยดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรการแพทย์ บุคลากรหน้าด่านที่มีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรังและประชาชนทั่วไปรวม 14.29 ล้านโดส แบ่งเป็นการฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 10.85 ล้านราย การฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 3.44 ล้านราย ในขณะที่การฉีดวัคซีนให้ถึงเป้าหมาย 100 ล้านโดสภายในปี 2564 จะต้องฉีดต่อวันให้ได้มากกว่า 500,000 โดส แต่ตัวเลขที่ฉีดได้ปัจจุบันห่างจากเป้าหมายมาก
ความล่าช้าในการส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และในขณะที่ประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวคในการป้องกันวัคซีนกลายพันธุ์เริ่มมีปัญหา ซึ่งความรุนแรงของเชื้อกลายพันธุ์ทำให้การติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนในปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่าวันละ 10,000 คน และมีแนวโน้มที่จะมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้นอีก ซึ่งทำให้ความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดมีมากขึ้น ถึงขั้นที่บริษัทประกันชีวิตบางแห่งต้องประกาศยกเลิกการทำประกันการติดเชื้อโควิด-19 ก่อนที่จะถูกเบรกในภายหลัง
การประกาศให้จองวัคซีนทางเลือกจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รวมถึงการเปิดให้จองวัคซีนทางเลือกของโรงพยาบาลเอกชนได้มีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจจองวัคซีนถึงแม้ว่าการสั่งจองวัคซีนทางเลือกจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง แต่ในสถานการณ์ที่ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงมาก และระบบสาธารณสุขกำลังเดินทางไปสู่ขั้นวิกฤติ จึงทำให้ประชาชนยอมที่จะเสียเงินเพื่อสั่งจองวัคซีนทางเลือกที่มีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิด-19 ได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงขีดความสามารถของรัฐบาลในการรับมือกับสถานการณ์วิกฤติ
ถึงแม้ประชาชนที่มีกำลังทรัพย์จะพร้อมจ่ายเงินสั่งจองวัคซีนทางเลือก แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถสั่งจองวัคซีนได้ในเมื่อวัคซีนทางเลือกที่ได้รับมาก็มีจำนวนจำกัด แน่นอนว่าทำให้ผู้ที่ยังไม่สามารถหาวัคซีนฉีดได้ย่อมมีความกังวลต่อการใช้ชีวิตในช่วงที่มีการระบาดรุนแรง และแม้ว่าจะไปฉีดวัคซีนซิโนแวคแต่ก็ยังมีคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ได้ ดังนั้นการมีเงินอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอที่จะได้รับวัคซีนเพราะอาจต้องใช้โชคเข้ามาประกอบด้วย
ช่วงที่ผ่านมามีหลายฝ่ายเสนอแนวทางในการจัดหาวัคซีนทางเลือก หลังจากที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐยืนยันแข็งขันมาตลอดว่าการจำหน่ายวัคซีนในช่วงวิกฤตินั้น ผู้ผลิตจะเจรจากับหน่วยงานของรัฐเพียงอย่างเดียว และไม่เจรจากับบริษัทเอกชน แต่ในปัจจุบันความจริงได้ปรากฏว่าในหลายประเทศนั้นรัฐบาลได้ให้เอกชนเข้ามาช่วยจัดหาวัคซีนและก็ได้ผลตอบรับที่ดี สิ่งที่รัฐบาลควรตระหนัก คือ การเร่งหาวัคซีนด้วยการคิดนอกกรอบราชการ เพราะวัคซีนในภาวะวิกฤติถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนควรได้รับโดยไม่มีค่าใช้จ่าย