'บล.โนมูระ พัฒนสิน' ชี้ โควิดฉุดหุ้นไทยเสี่ยงหลุด 1,500 จุด 1-2 เดือนนี้
โบรก ชี้ ขยายล็อกดาวน์อีก 14 วัน กดดันหุ้นไทยผันผวนทิศทางขาลง “เอเซียพลัส” คาด 1,535 จุด รับไหว “โนมูระ พัฒนสิน” หั่นกำไรบจ.ปีนี้ เหลือ 76 บาทต่อหุ้น-หั่นจีดีพีปีนี้โต 1.5% “ทิสโก้” คาดกำไรบจ.โตเพียง 50% แม้ปี 63 ฐานต่ำ
ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวานนี้ (19 ก.ค.) ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดตลาดก่อนทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1,551.79 จุด หรือลดลง 22.58 จุด ก่อนจะรีบาวด์กลับมาปิดตลาดที่ 1,556.01 จุด ลดลง18.36 จุด หรือ 1.17% มูลค่าการซื้อขาย 66,729.12 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,900.36 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1,156.38 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 305.26 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,751.49 ล้านบาท
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยถูกผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นส่งผลให้ภาครัฐต้องประกาศขยายระยะเวลาล็อกดาวน์ออกไปอีก 14 วัน โดยการล็อกดาวน์ในครั้งนี้คาดว่าจะส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในไตรมาส 3 ปี 2564 ออกมาติดลบ
รวมถึงส่งผลให้จีดีพีทั้งปี 2564 มีความเสี่ยงออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ กล่าวคือเติบโตต่ำกว่า 1% หรือติดลบในกรณีเลวร้าย ซึ่งจะส่งผลทางลบต่อตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวลงและมีความผันผวน โดยประเมินแนวรับ 1,535 จุด และแนวต้าน 1,570-1,580 จุด
นอกจากนี้ การเติบโตของจีดีพีที่อาจต่ำกว่าคาดการณ์จะส่งผลกดดันกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยคาดว่าประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 2564 ของตลาดที่ 83-84 บาทต่อหุ้น จะมีความเสี่ยงถูกปรับลง ซึ่งทาง บล.เอเซีย พลัส คาดว่าจะยังไม่ปรับคาดการณ์กำไร บจ.ลงในเร็วๆ นี้ เนื่องจากประมาณการของบริษัทที่ 71.20 บาท ซึ่งค่อนข้างต่ำกว่าที่ตลาด หรือคิดเป็นมูลค่ากำไร 8.05 แสนล้านบาท
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นและมีมาตรการล็อกดาวน์เข้มขึ้นใน 13 จังหวัด จะส่งผลต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยในปีนี้ให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทจึงปรับลดคาดการณ์กำไรบจ.(EPS) ปี 2564 ลงจาก 77 บาทต่อหุ้นเหลือ 76 บาทต่อหุ้น แต่ยังคงคาดการณ์ในปี 2565 ไว้ที่ 90 บาทต่อหุ้น ถือเป็นมุมมองที่ค่อนข้างระมัดระวัง และยังต่ำกว่าที่ตลาดคาดกำไรบจ.ปีนี้เฉลี่ยที่ 85 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ ประเมินภายใต้สมมติฐานมีการยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ในช่วง 1-2 เดือนนี้ (เดือน ก.ค.-ส.ค.) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยปี 2564 จึงปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีนี้ลงเหลือโต 1.5% จากเดิมคาดเติบโต 2.1% เพราะการบริโภคและการลงทุนเอกชนปรับตัวลดลง ขณะที่แนวโน้มตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลังนี้ คาดว่ายังมีความผันผวนในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า
โดยประเมินแนวรับ 1,450 จุด และแนวต้าน 1,650 จุด โดยดัชนีมีโอกาสปรับลงมาที่แนวรับแรก 1,540 จุด และแนวรับถัดไปที่ต่ำกว่า 1,490 จุด เป็นโอกาสทยอยเข้าซื้อ โดยกลยุทธ์แนะเลือกลงทุนเน้นกลุ่มกำไรดีและคงน้ำหนักการลงทุนที่ 50%
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีความเสี่ยงแกว่งตัวลงในกรอบ 1,540-1,580 จุด จากผลกระทบโควิด-19 และการล็อกดาวน์ประเทศ ซึ่งจะส่งผลกดดันการเติบโตของจีดีพีและกำไร บจ. โดยบริษัทคาด EPS ตลาดหุ้นไทยในปีนี้มีความเสี่ยงเติบโตไม่ถึง 80 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นการเติบโตจากปีก่อน (EPS Growth) เพียง 50%
โดยอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะกดดันตลาดหุ้นและกำไร บจ.ต่อจากนี้คือแนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกที่มีความเสี่ยงปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2564