รวบแก๊งชาวจีน หลอกผู้เสียหายชาวไทยหลายราย ลงทุนซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
รวบแก๊งมังกรจีน Hybrid scam หลอกผู้เสียหายชาวไทยหลายรายลงทุนซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
วันที่ 23 ก.ค.64 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต. สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ศิลปคมณ์เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม. ร่วมกับชุดสืบสวน ศปชก.สตม.
ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายชาวต่างชาติ ได้แก่ 1. นายฮู สัญชาติจีน อายุ 39 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ จ.223/2564 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” 2. นายกรินทร์ฯ อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ จ.196/2564 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” 3. น.ส.รสรินทร์ฯ อายุ 40 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ จ.197/2564 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”
โดยคนร้ายสร้างโปรไฟล์ปลอมเป็นผู้ชายชาวจีนหน้าตาดีภูมิฐาน มีฐานะเข้ามาตีสนิทผู้เสียหายชาวไทย เบื้องต้น จำนวน 15 ราย ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Instagram, Tinder, Hello talk หรือแอปพลิเคชั่นสอนภาษาต่างประเทศ เมื่อได้ทำความรู้จักและสนิทสนม เกิดความชอบพอ หรือไว้วางใจจากผู้เสียหาย คนร้ายจะแอบอ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับตลาดสกุลเงินดิจิทัล ชักชวนให้ลงทุน ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล อาทิ BTC USDT BNB ผ่านทางแอปพลิเคชั่น BLACK STONE, ZON XIN , Grayscale , PKEX , BLACK ROCK ฯลฯ โดยอ้างว่าหากซื้อขายตามคำแนะนำของคนร้าย จะได้ผลตอบแทนสูง ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อได้ซื้อขายสกุล เงินดิจิทัลไปตามคำแนะนำของคนร้าย ซึ่งในระยะแรกได้ผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง แต่ต่อมาภายหลังไม่ได้ผลตอบแทนคืนแต่อย่างใด อีกทั้ง เมื่อผู้เสียหายมีความประสงค์จะถอนเงินออกจากระบบ ซึ่งแสดงยอดเงินที่ตนเองมีอยู่ ก็ไม่สามารถถอนได้และจะถูกคนร้ายชักจูง หลอกลวงให้โอนเงินเพิ่มเข้าไปในระบบ ซึ่งเมื่อโอนเข้าไปแล้วก็ไม่สามารถนำเงินออกจากระบบได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนถูกหลอกลวง จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนตามท้องที่เกิดเหตุต่างๆ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
ต่อมา ชุดสืบสวน ศปชก.สตม. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มคนร้ายมีทั้งชาวจีนและชาวไทยพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยกลุ่มคนร้ายมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยกลุ่มชาวจีน
จะสั่งหรือจ้างให้คนไทยไปตระเวนซื้อ หรือเปิดสมุดบัญชีธนาคารจำนวนมาก เมื่อมีเงินจากผู้เสียหายโอนเข้ามาแล้ว จะใช้ให้คนไทยไปตระเวนกดเงินออกจากบัญชี เพื่อนำเงินสดมาให้ตน ต่อจากนั้นจะนำเข้าไปซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลต่างๆ เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนติดตาม
จากนั้นเจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. ได้ทำการสืบสวน จนกระทั่งจับกุมตัวผู้ต้องหาบางส่วนได้ จำนวน 3 ราย ในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี
เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขณะเข้าตรวจค้นจับกุม สามารถยึดเงินสด รวม 3,240,000 บาท (สามล้านสองแสนสี่หมื่นบาท) พบสมุดบัญชีธนาคารจำนวนหลายบัญชีพร้อมบัตรกดเงินสด และอายัดทรัพย์สิน รถยนต์หรู 2 คัน รวมมูลค่า 8,000,000 บาท (แปดล้านบาท) ซึ่งเชื่อว่านำเงินที่ได้จากการกระทำความผิด มาฟอกเงินและแปรสภาพเป็นทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. ได้ทำการสืบสวนและออกหมายจับกลุ่มบริหารการเงินซึ่งเป็นชาวจีน ทั้งหมด จำนวน 3 ราย โดยจากการสืบสวนและตรวจสอบข้อมูลการเดินทางทราบว่าได้เดินทางออกจากประเทศไทยแล้ว ก่อนที่จะมี การออกหมายจับและประกาศสืบจับ ทั้งนี้ จะได้ประสานงานและติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดี ตามกฎหมาย ต่อไป
ทั้งนี้ สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความ ปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแส การกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลูแขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือทางเว็บไซต์ www.immigration.go.th