แนะวิธี 'กักตัวในบ้าน' อย่างไร ให้ปลอดภัย
กรมควบคุมโรค แนะวิธี "กักตัวในบ้าน" ให้ปลอดภัย หยุดเชื้อโควิดแพร่คนในบ้าน
วันนี้ (23 กรกฎาคม 2564) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงนี้ประเทศไทย ยังคงพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่แสดงอาการป่วยและไม่แสดงอาการป่วยแต่สามารถแพร่เชื้อติดต่อไปยังคนอื่นได้ ทำให้จำนวนผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อมีมากขึ้นตามไปด้วย ผลจากการดำเนินการสอบสวนเพื่อควบคุมโรคในพื้นที่หลังจากมีรายงานผู้ป่วยรายใหม่จากทั่วประเทศจนถึงขณะนี้ พบว่าผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด 19 มีอัตราการติดเชื้อร้อยละ 11.83 ซึ่งยังอยู่ในอัตราที่สูง โดยเชื้อที่เป็นปัญหาหลักของไทยขณะนี้ คือสายพันธุ์เดลตาและอัลฟา ที่ติดต่อกันได้ง่าย ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา 1 คน สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ 5-8 คน ส่วนเชื้อสายพันธุ์อัลฟาแพร่ได้ 4-5 คน
นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อว่า มาตรการที่จะสกัดกั้นการแพร่ระบาดให้ยุติโดยเร็วที่สุด เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ลดการเสียชีวิตและผลกระทบอื่นๆ คือ การป้องกันการติดเชื้อและควบคุมไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปมากกว่านี้ จะต้องดำเนินการร่วมกันทุกฝ่ายไปในแนวทางเดียวกันอย่างเข้มข้น กรมควบคุมโรคจึงขอความร่วมมือประชาชนที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิดระหว่างที่ใช้ชีวิตประจำวัน ขอให้กักตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน เป็นช่วงที่เชื้อฟักตัวเพื่อสังเกตอาการว่าติดเชื้อหรือไม่ สามารถดำเนินการได้ทั้งในบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ อาคารชุด เช่น หอพักคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ต่างๆ ทั้งประเภทอยู่คนเดียว หรืออยู่ร่วมกับครอบครัวหรือพักร่วมกับผู้อื่น สร้างความปลอดภัย ทั้งตนเองและคนในครอบครัว มีข้อแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้
1.ให้จัดสถานที่พัก และอุปกรณ์เครื่องใช้ให้พร้อม เน้นแยกที่พักให้เป็นสัดส่วน เช่นห้องนอน ที่นอน หากแยกไม่ได้ อาจใช้แผ่นกระดาษหรือพลาสติกกั้นห้องเพื่อแบ่งสัดส่วนชั่วคราว เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสะดวก แยกของใช้ส่วนตัว แยกห้องน้ำ หากแยกไม่ได้ ให้ใช้เป็นคนสุดท้ายและทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทันที ทำความสะอาดฆ่าเชื้ออุปกรณ์ภายในบ้านด้วยน้ำผสมผงซักฟอก น้ำผสมน้ำยาฟอกขาว หรือแอลกอฮอล์ 70%
2.เน้นการดูแลอนามัยส่วนบุคคล โดยล้างมือฟอกด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล 70 % ทุกครั้งก่อนและหลังสัมผัสสิ่งของที่ต้องใช้ร่วมกับคนอื่น ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ไม่คลุกคลีกับคนอื่น แยกซักเสื้อผ้าเอง และให้งดการสัมผัสหรือเล่นกับสัตว์เลี้ยงชั่วคราว เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถติดไปกับขนสัตว์ได้เช่น แยกทานอาหาร หากให้ผู้อื่นจัดหาอาหารให้ ควรกำหนดจุดรับอาหารเพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรง กรณีใช้ชักโครก ให้ปิดฝาทุกครั้งก่อนกดชักโครก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ทิ้งขยะในถุงและมัดปากถุงให้แน่นก่อนนำไปทิ้งรวมกับขยะทั่วไป
3.เฝ้าระวังอาการป่วยตนเองระหว่างกักตัว โดยใช้ปรอทตรวจวัดไข้ทุกวัน และสังเกตอาการผิดปกติ หากพบว่ามีไข้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส และมีอาการไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก หอบเหนื่อย ตาแดง จมูกไม่ได้กลิ่นหรือลิ้นไม่รับรส มีผื่นขึ้น ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ท้องเสีย อาเจียน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านหรืออาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) ทันที เพื่อเข้าสู่ระบบการดูแลตามขั้นตอนต่อไป หากมีข้อสงสัยสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนควบคุมโรค โทร. 1422