มอร์นิ่งสตาร์ ชี้เหตุโควิดระบาดแรง เตือนลงทุน ‘ทริกเกอร์ฟันด์’ เสี่ยง

 มอร์นิ่งสตาร์ ชี้เหตุโควิดระบาดแรง เตือนลงทุน ‘ทริกเกอร์ฟันด์’ เสี่ยง

“มอร์นิ่งสตาร์”คาดครึ่งหลังปีนี้ บลจ.ออกทริกเกอร์ฟันด์แผ่ว เหตุ โควิดระบาดหนักกดตลาดหุ้นทรุด  เตือนนักลงทุนระวัง เสี่ยงปิดกองไม่ได้ตามกำหนด  หลังครึ่งปีแรกแห่ขาย  31 กองทุน ปิดแค่ 5 กองทุน เหลือ26กองทุนคิดเป็นเอยูเอ็ม ราว  2.9 หมื่นล้าน

นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนวโน้มกองทุนทริกเกอร์ในครึ่งหลังปี 2564 มองว่า บลจ.น่าจะเริ่มออกกองใหม่แผ่วลง เนื่องจากการลงทุนในช่วงนี้ อาจมีปัจจัยความกังวลการระบาดของโควิด -19 ระลอกใหม่ ในหลายประเทศทั่วโลกส่งผลให้ตลาดหุ้นอาจมีการชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกับกองทุนทริกเกอร์ที่เป็นการจับจังหวะการลงทุนขณะเดียวกันมีความเสี่ยงที่จะยังไม่สามารถขายคืนเงินลงทุนได้ในช่วงเวลาที่กำหนด เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องระมัดระวังในการเข้าลงทุน

ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีถึง 15 ก.ค. 2564 พบว่าบลจ.มีการเปิดขายกองกองทิกเกอร์ฟันด์ ใหม่จำนวน 31 กองทุน มีกองทุนปิดไปแล้วจำนวน 5 กองทุน คงเหลือที่ยังไม่เข้าเงื่อนไขปิดกองทุน 26 กองทุน เป็นมีมูลค่าสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น ( AUM)ราว 29,000 ล้านบาท

และหากรวมมูลค่ากองทุนทริกเกอร์ที่เปิดขายช่วงปี 2563 จำนวน 20 กองทุน และยังไม่เข้าเงื่อนไขปิดกองทุนจำนวน 3 กองทุน จะทำให้มียอดคงเหลือที่ยังไม่เข้าเงื่อนไขปิดกองทุนรวมทั้งสิ้น 29 กองทุน  คิดเป็น AUM รวมทั้งสิ้น 31,000 ล้านบาท

สำหรับ5 อันดับบลจ. มีAUMกองทุนทริกเกอร์สูงสุด ได้แก่ 1 บลจ.วรรณAUM15,798 ล้านบาท ยังไม่เข้าเงื่อนไข 9 กองทุน และปิดแล้ว 7 กองทุน 2.บลจ. บัวหลวง AUM 5,107 ล้านบาท ยังไม่เข้าเงื่อนไข3 กองทุน และปิดแล้ว2 กองทุน

3.บลจ. ไทยพาณิชย์ AUM3,646 ยังไม่เข้าเงื่อนไข 6 กองทุน และปิดแล้ว1 กองทุน 4.บลจ. กรุงไทย AUM3,400 ล้านบาท ยังไม่เข้าเงื่อนไข4 กองทุน และปิดแล้ว 4 กองทุน 5.บลจ. แอสเซทพลัสAUM 2,103 ล้านบาท ยังไม่เข้าเงื่อนไข1กองทุน และปิดแล้ว 2 กองทุน

       

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ เชื่อว่า หลายๆ บลจ.ต้องรอดูจังหวะในการออกกองทริกเกอร์ ซึ่งต้องพิจารณาการออกขายในช่วงตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น โดยเฉพาะในตลาดหุ้นต่างประเทศที่มีการฟื้นตัวได้มากกว่าตลาดหุ้นไทย มองว่า น่าจะเป็นโอกาสทำผลตอบแทนเข้าเงื่อนไขปิดกองทุนได้มากกว่า ดังนั้นการออกกองทุนนี้น่าจะเบาบางลงจากครึ่งแรกของปีนี้ที่ออกมาค่อนข้างมาก โดยบริษัทได้มีการออกกองทุนทริกเกอร์ในหุ้นจีนเช่นกัน มีเม็ดเงินเข้ามาราว 400-500 ล้านบาทในสัปดาห์แรก 

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังค่อนข้างระมัดระวังในการออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19 กลับมารุนแรงต่อเนื่อง ต้องประเมินความต้องการในการลงทุนของนักลงทุนเช่นกัน ส่วนใหญ่ยังแนะนำให้นักลงทุนถือเงินสดและรอติดตามสถานการณ์ชัดเจนก่อน