GPSC เล็งปักหมุดพลังงานทดแทน 'อินเดีย-ไต้หวัน-เวียดนาม' เพิ่ม
'โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่' จ่อปักหมุดพลังงานทดแทนต่อเนื่อง เผย 3 ประเทศเป้าหมาย 'อินเดีย-ไต้หวัน-เวียดนาม' ผลักดัน 5 ปีแรก (64-68) กำลังผลิตแตะ 4,000 เมกะวัตต์ ก่อนขยับ 8,000 เมกะวัตต์ใน 10 ปี !
ทั้งนี้ ในแผนธุรกิจบริษัทยังมีการลงทุนและสร้างการเติบโตต่อเนื่องทุกปี สอดคล้องกับแผนการลงทุนช่วง 3 ปีข้างหน้า (2564-2566) โดยในปีนี้บริษัทลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าโกลว์ เอสพีพี ทดแทน (SPP Replacement) จำนวน 7 โรง กำลังการผลิตรวม 600 เมกะวัตต์ ลงทุนโครงการพลังงานโซลาร์ฟาร์มอินเดีย ส่วนปี 2565 โครงการลงทุนพลังงานลมนอกชายฝั่ง ไต้หวันจะเข้ามา และในปี 2566 โครงการโรงไฟฟ้า Energy Recovery Unit (ERU) ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 250 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 175 ตันต่อชั่วโมง ของ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2566
สำหรับการลงทุนในประเทศ บริษัทยังมองการลงทุนใหม่ๆ ทั้งในส่วนการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเดิม และพลังงานทดแทน เช่น โซลาร์สหกรณ์ หรือโซลาร์รูฟท็อป โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ได้รับอนุมัติแล้วตามสัดส่วนการถือหุ้น (Equity MW) รวมประมาณ 6,761 เมกะวัตต์ เป็นไอน้ำรวมประมาณ 2,946 ตันต่อชั่วโมง น้ำเย็นรวมประมาณ 15,400 ตันความเย็น และน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมรวมประมาณ 7,372 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
โดยคาดว่าในปีนี้ความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมขยายตัว 4-6% จากปีก่อน เนื่องจากคาดว่าจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจผ่านไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันทิศทางเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวเห็นสัญญาณจากผู้ประกอบการในหลายอุตสาหกรรมเริ่มขยายกำลังการผลิตแล้ว
สำหรับ 'ธุรกิจกักเก็บพลังงาน' (แบตเตอรี่) ปัจจุบันลงทุนโรงงานผลิตแบตเตอรี่ G-Cell นับเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ด้วยเทคโนโลยี SemiSolid แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 30 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมงต่อปี ซึ่งสามารถขยายกำลังการผลิตของโรงงานนี้เพิ่มเป็น 100 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมงต่อปี และตั้งเป้าก้าวสู่โรงงานผลิตเชิงพาณิชย์ขนาดเริ่มต้น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ในอีก 2-3 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาแผนการลงทุนในช่วงต่อไป
อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินงานครั้งนี้จะเสริมสร้างความพร้อมด้านพลังงานให้กับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า (EV) การเพิ่มขึ้นของการผลิตและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะสร้างศักยภาพการแข่งขันให้กับประเทศ และเสริมคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนคนไทยตามนโยบายรัฐบาล
ท้ายสุด 'ทิติพงษ์' ทิ้งท้ายไว้ว่า ภาพการลงทุนของ GPSC ใน 3 ปีข้างหน้า จะเห็นเราลงทุนโครงการพลังงานต่อเนื่องทุกๆ ปี ซึ่งสะท้อนว่าเราก็จะมีการเติบโตในแง่ของผลประกอบการทุกปี โดยกลยุทธ์ลงทุนพลังงานงานทดแทนหลักๆ น่าจะเห็นการลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง