‘โครงการต้องรอด’ กลุ่ม ‘Up for Thai’อาสาสมัครภาคประชาชน
ในช่วง “โควิด-19” ยังคงวิกฤต ต้องขอปรบมือให้กับหลายหน่วยงานที่มีจิตอาสาออกมาช่วยเหลือสังคมในยามที่ยากลำบากนี้ ทั้ง “โครงการต้องรอด” กลุ่ม “Up for Thai” นักธุรกิจอุทิศพื้นที่ศูนย์การค้าให้เป็นสถานที่"ฉีดวัคซีน" และแบรนด์มือถือดังมอบโทรศัพท์ให้จิตอาสา
เริ่มข่าวแรก ด้วยเหตุผลที่ว่า เพราะพวกเรา “ต้องรอด” โครงการ “ต้องรอด” โดยกลุ่ม Up for Thai เป็นความร่วมมือกันของกลุ่มอาสาสมัครภาคประชาชน และภาคเอกชน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ประชาชนจากความเดือดร้อนในภาวะการระบาดของ ไวรัส COVID-19 นำโดย ดวงฤทธิ์ บุนนาค และ คุณชายอดัม ม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล พร้อมยังได้รับการสนับสนุนจากผู้เกี่ยวข้องที่มีชื่อเสียงอย่าง ป้าตือ คุณสมบัษร ถิระสาโรช และ คุณสุกิจ เจริญมุขยนันท์
โครงการนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก กุลทรัพย์ วัฒนผล หัวหน้าทีมที่บุกเบิกวงการ E-Sports ใน เมืองไทย และเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กของคุณชายอดัม ซึ่งได้เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มอาสาสมัครเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาระดับประเทศนี้โครงการ “ต้องรอด” โดยกลุ่ม Up for Thai ได้จัดตั้งศูนย์รวบรวมการสนับสนุนสิ่งของจำเป็น เพื่อรับบริจาควัตถุดิบ เครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม รวมถึงทุนทรัพย์ และยังได้จัดตั้งโรงครัว ตั้งเป้าผลิตอาหารสำหรับ 2,000 คนต่อมื้อ (3 มื้อต่อวัน) ในทุก ๆ วัน เป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน (ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม 2564) แจกจ่ายไปยังชุมชนที่มีการกักตัวจากการเฝ้าระวังอาการ และจากการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส COVID-19
ศูนย์รวบรวมการรับบริจาคและโรงครัวเพื่อชุมชน ของ โครงการ “ต้องรอด” โดยกลุ่ม Up for Thai ปฏิบัติงานตามนโยบายและแนวทางมาตรการป้องกันการติดเชื้อของกรุงเทพมหานครอย่างเคร่งครัด โดยจัดทำแผนงานการคัดกรอง COVID-19 ร่วมกับหน่วยงานปกครองในพื้นที่ และกำหนดการพ่นฆ่าเชื้อพื้นที่ปฏิบัติงาน (surface disinfection) ทุก 10 วัน ทางศูนย์มีการจัดแบ่งพื้นที่การทำงานของกองอำนวยการ พื้นที่พักอาศัยสำหรับอาสาสมัครแบบพักค้างคืน กำหนดจุดลงทะเบียน จุดรับและจุดฆ่าเชื้อสิ่งของบริจาค มีการบริหารจัดการคลัง จัดเก็บวัตถุดิบแห้งและสด แบ่งพื้นที่เตรียมอาหาร พื้นที่ประกอบอาหาร รวมไปถึงพื้นที่ลำเลียงเพื่อจัดส่ง และพื้นที่ซักล้าง
นอกเหนือจากนี้ โครงการ “ต้องรอด” โดยกลุ่ม Up for Thai ยังประสานงานกับหน่วยงานภาคประชาชนและเอกชนอื่น ๆ เช่น บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (แบรนด์ CP) บริษัทอาจจิตต์อินเตอร์เนชั่นเนล เพ็พเพอร์แอนด์สไปซ์ (ตรามือที่หนึ่ง) บริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ (แบรนด์สิงห์) บริษัทหาดทิพย์ (แบรนด์น้ำทิพย์และโค้ก) บริษัท เซ็ปเป้ (แบรนด์เซ็ปเป้และเพรียว) บริษัทไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ (ตลาดไท) ฯลฯ เพื่อสร้าง supply route ในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 และมีการประสานเชื่อมโยงคลังกับทาง ThaiPBS เพื่อส่งสิ่งของที่จำเป็นต่าง ๆ ผ่าน ThaiPBS ไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ต่อไป
โรงครัวปลอดเชื้อของ โครงการ “ต้องรอด” โดยกลุ่ม Up for Thai มีกำลังการผลิตอาหารสดใหม่ประมาณ 2,000 ชุดต่อมื้อ เป้าหมายผลิต 3 มื้อต่อวัน ทุกวัน เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยกองกำลังอาสาสมัครผู้ผ่านการคัดกรองประวัติว่าไม่มีความเสี่ยงจาก COVID-19 จะเข้าปฏิบัติงานตั้งแต่ 4:00 – 18:00 น.
โครงการ “ต้องรอด” โดยกลุ่ม Up for Thai กระจายส่งอาหารสดใหม่ น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น โดยพาหนะของศูนย์จำนวน 3 คัน และประสานกับขนส่งภายนอก เช่น ทีม ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รถคณะราษฎร กลุ่ม “เส้นด้าย” รถกลุ่มอาสาชุมชนพัฒนาใหม่ รถขนส่งภาคประชาชนอื่น ๆ ไปยังจุดกระจายอาหาร ของอุปโภคบริโภคในชุมชน เช่น SOS Thailand มูลนิธิปั้นเด็กดี มูลนิธิดวงประทีป อาสาดุสิต วัดสะพาน ThaiPBS กู้ภัยสมุทรปราการ รวมถึงชุมชนที่ต้องกักตัวจากการเฝ้าระวังอาการติดเชื้อไวรัส COVID-19 กว่า 50 แห่ง และครอบคลุมพื้นที่เพิ่มขึ้นทุกวัน อาทิ ชุมชนคลองเตย ชุมชนพัฒนาใหม่ ชุมชนริมคลองสามเสน ชุมชนร่มเกล้า ชุมชน เชื้อเพลิงพัฒนา ชุมชนสวนอ้อย โดยทางโครงการ “ต้องรอด” ยังมีส่วนร่วมในการสนับสนุนจัดตั้งโรงครัว ทั้งทางด้านวัตถุดิบ องค์ความรู้ และการประสานงานพื้นที่กับกลุ่มบุคคล องค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ เช่น โรงครัวเคลื่อนที่โดยสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร โรงครัวชุมชนพัฒนาใหม่ โรงครัววัดคลองเตยนอก เขตคลองเตย โรงครัวกลุ่มอาสาดุสิต โรงครัวชุมชนในเขตคลองสามวา
โครงการ “ต้องรอด” โดยกลุ่ม Up for Thai มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องในหลายช่องทาง ทั้ง Social media ของกลุ่ม สำนักข่าวทั้งโทรทัศน์และออนไลน์ ผู้มีชื่อเสียง เช่น ศิลปิน/นักร้อง ไอดอล นักแสดง Influencer Streamer Youtuber รวมทั้ง Social Media ของภาคี เพื่อร่วมกันสร้างความตระหนัก ความเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และการทำงานของกลุ่ม Up for Thai ติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ Up for Thai "ต้องรอด" เพิ่มเติมได้ที่ Line: @upforthaiและ ติดต่อได้ที่ อัญชลี ชัยชนะวิจิตร โทร.085-155-2314 email : [email protected]
ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ทรงมีพระราชประสงค์ผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบโอกาสการศึกษาให้กับเด็กที่ผู้ปกครองชีวิตจากโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่เดือดร้อนไม่มีผู้อุปการะเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ที่ตั้งอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อให้เด็กได้เรียนหนังสือและมีที่พักอาศัยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
โดยเบื้องต้นมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ได้มอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดและพัฒนาสังคมสงเคราะห์และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพิจารณาตามขั้นตอนของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ซึ่งการสงเคราะห์ด้านการศึกษาของมูลนิธินั้น จะให้การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เด็กกำพร้าหรือเด็กอนาถาที่ครอบครัวประสบสาธารณภัย ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดีจบจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และให้การสนับสนุนกิจการของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์
ทั้งนี้สำหรับโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ เป็นโรงเรียนประจำมีที่พักอาศัยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ในการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาสในครอบครัวผู้มีฐานะยากไร้ทางเศรษฐกิจและสังคมให้ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง
นิกส์ - สุฐิตา โชติจุฬางกูร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาด เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ขยายเวลาสนับสนุนพื้นที่ ศูนย์การค้าเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก 2,500 ตารางเมตร ในการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 เพิ่มเติม (จากเดิม มิ.ย. - ก.ค. รวม 2 เดือน) โดยขยายไปอีก 2 สัปดาห์ ไปจนถึงวันที่ 13 ส.ค. 64 เพื่อเป็นการตอบโจทย์ภาครัฐในการให้บริการประชาชนได้มีโอกาสเข้าถึงวัคซีนได้อย่างมากที่สุด พร้อมตอนนี้ยังติดตามข่าวสารสำรวจความต้องการของหน่วยบริการที่ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อเตรียมสิ่งของจำเป็นลงพื้นที่ให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทั้งเก่งทั้งสวยและใจดีอย่างนี้ ขอปรบมือให้รัวๆเลยนะคะ
ส่วน vivo ผู้นำแบรนด์สมาร์ตโฟนระดับโลกนำโดย ลอน่า เหลียง Operator Channel Director วีโว่ ประเทศไทย มอบสมาร์ตโฟน vivo ให้แก่ทีมงานจิตอาสา #เราต้องรอด โดยมี ไดอาน่า จงจินตนาการ หรือ ได๋-ไดอาน่า พิธีกร-นักแสดงสาว ผู้ก่อตั้งเพจ #เราต้องรอด เป็นผู้รับมอบ เพื่อใช้อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ประสานงานต่างๆ ในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ณ ศูนย์พักคอยตันปัน ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ ทั้งนี้ vivo ขอขอบคุณทีมงานจิตอาสาตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่เสียสละทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่เพื่อรับมือวิกฤตครั้งนี้ และขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนร่วมฝ่าฟันและก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน