16 ส.ค.นี้ศบค.ชุดใหญ่หารือผ่อนคลายมาตรการ 'ล็อกดาวน์'

16 ส.ค.นี้ศบค.ชุดใหญ่หารือผ่อนคลายมาตรการ 'ล็อกดาวน์'

คาดการณ์ไม่ 'ล็อกดาวน์' ปลายเดือนส.ค.-ต้นเดือนก.ย.นี้ พบผู้ติดเชื้อพุ่งกว่า 70,000 ราย ย้ำต้องช่วยล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 25% นาน 2 เดือน เร่งฉีดวัคซีน ลดผู้ติดเชื้อ 20,000 กว่ารายต่อวัน ย้ำ 'หญิงตั้งครรภ์-แท็กซี่'เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19

วันนี้ (13 ส.ค.2564) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่าที่ประชุมศบค.ได้รับทราบการคาดการณ์การติดเชื้อ พบว่า

  • คาด 'ไม่ล็อกดาวน์' จะพบผู้ติดเชื้อน้อยถึง 70,000 ราย

ถ้าไม่มีการล็อกดาวน์ จะเกิดการติดเชื้อในช่วงปลายเดือนส.ค.-ต้นก.ย. ประมาณ 60,000-70,000 ราย

ถ้าล็อกดาวน์ประสิทธิภาพ 20% จะพบผู้ติดเชื้อสูงเกือบ45,000 ราย ในต้นเดือน-กลางเดือนก.ย.

ถ้ามีการล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 25% นาน 2 เดือน และเร่งฉีดวัคซีนผู้สูงอายุถึงเป้าหมาย ภายใน 1-2 เดือน จะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อ 20,000 กว่ารายต่อวัน 

  • 'ล็อกดาวน์'25% ฉีดวัคซีน ช่วยลด'ผู้เสียชีวิต'

ส่วนการคาดการณ์ผู้เสียชีวิต 

หากไม่มีการล็อกดาวน์ จะพบว่ามีผู้เสียชีวิต สูงถึง 800 คน ในเดือนก.ย.นี้

หากล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 20%จ พบผู้เสียชีวิต 500 คนในเดือนก.ย.นี้

หากล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 25% นาน 2 เดือน บวกกับการเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 จะทำให้ลดอัตราผู้เสียชีวิตเหลือต่ำกว่า 100 รายต่อวัน

แต่ทั้งนี้ ในสภาพปัจจุบัน บางจังหวัดของต่างจังหวัดหลายๆ ที่มีการไม่ได้ร่วมมือกัน จะเห็นภาพการดื่ม การเล่น การเสพ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นภาพที่เกิดขึ้นรายวัน  ขอความร่วมมือทุกท่านร่วมแรงร่วมใจกัน การสู้กับโรคระบาดต้องร่วมมือกันทั้งประเทศ

  • 'หญิงตั้งครรภ์' น่าห่วงติดโควิด-19 กว่า180 ราย เสียชีวิต 29 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับสถานการณ์หญิงตั้งครรภ์ที่ป่วยและเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.11 ส.ค.2564 ผู้ติดเชื้อ 185 ราย คิดเป็น 0.02% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดที่รับรายงาน แบ่งเป็นสมุทรปราการ 52 ราย ชลบุรี 22 ราย กรุงเทพฯ11 ราย มหาสารคาม 9 ราย สระแก้ว 7 ราย โดยผู้ติดเชื้อ ค่ากลางอายุ 28 ปี  ซึ่ง 73% จะเป็นสัญชาติไทย

ส่วน ผู้เสียชีวิต 29 ราย คิดเป็น 0.43% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดที่รับรายงาน แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 8 ราย สมุทรสาคร 3 ราย ปทุมธานี 2 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย ยะลา 2 ราย และสมุทรปราการ 2 ราย  โดยพบว่า ส่วนผู้เสียชีวิตค่ากลางอายุ 33 ปี  และ83% จะเป็นสัญชาติไทย 

  • ย้ำ 'หญิงตั้งครรภ์'ควรฉีดวัคซีนโควิด ป้องกันการติดเชื้อเสียชีวิต

ทั้งนี้ สำหรับปัจจัยเสี่ยง ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต เกิดจากการไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ ส่วนผู้เสียชีวิต ดังนั้น การจะลดปัจจัยเสี่ยงได้ จะต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ใครที่กังวลเรื่องการฉีดวัคซีน ควรเปลี่ยนใจกลับมาฉีดวัคซีน

ขณะที่อายุครรภ์ ในหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ ส่วนใหญ่จะอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ และเมื่อการเสียชีวิตก็มากกว่า 12 สัปดาห์ขึ้นไปเช่นกัน

“อยากจะฝากว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับวัคซีน  จะไม่มีอาการ มีอาการน้อย และพบเสียชีวิตเพียง  1 ราย แต่ถ้าไม่ได้ฉีดวัคซีน พบว่าจะไม่มีอาการ มีอาการน้อย แต่เสียชีวิตมากถึง 14 ราย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

  • 16 ส.ค.นี้ ศบค.ชุดใหญ่หารือผ่อนคลายมาตรการ 'ล็อกดาวน์' 

สำหรับกลุ่ม ผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะระหว่างวันที่ 1 พ.ค.-12 ส.ค.2564 มีผู้ติดเชื้อ 353 ราย คิดเป็น 0.05% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด มีผู้เสียชีวิต 104 ราย คิดเป็น 1.54%ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะขับรถแท็กซี่  ขับรถโดยสารสาธารณะ ขับรถตู้ และจักรยานยนต์รับจ้าง

ทั้งนี้ เมื่อจำแนกตามการรับวัคซีน พบว่า ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะมีการเสียชีวิตถึง 70 คน แต่ผู้ที่ได้รับวัคซีนจะเสียชีวิต 3ราย แต่หากได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มจะไม่พบผู้เสียชีวิต

“ทางศบค.ได้ร่วมกับสธ.ได้มีการพิจารณาถึงการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งเบื้องต้นนวันจันทร์ที่จะ 16 ส.ค.นี้ ถึงนี้ จะมีการประชุมศบค.ชุดใหญ่ และจะได้ข้อสรุปว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์หรือไม่นพ.ทวีศิลป์ กล่าว