บลจ.ทิสโก้ ชี้ โควิดหนุนลูกค้าหันเปิดบัญชีออนไลน์พุ่ง
บลจ.ทิสโก้ เผยช่วงโควิดระบาดในปีนี้ลูกค้าแห่เปิดบัญชีกองทุนและลงทุนบนออนไลน์พุ่ง 200-300รายต่อเดือน และตลาดทุนต้นปีดีกว่าคาด หนุน AUM ครึ่งปีแรกปีนี้เข้าเป้าทั้งปีนี้วางไว้เกิน7 หมื่นล้าน โต30%จากปีก่อนแล้ว แต่ยังไม่ปรับเป้า จับตาคุมโควิดครึ่งปีหลัง
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ เปิดเผยว่าช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมานี้ พบว่าลูกค้าเปิดบัญชีกองทุนและลงทุนผ่านระบบออนไลน์ ราว 200-300 รายต่อเดือน เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วง 2 ปีก่อนที่เริ่มช่องทางนี้
แม้ช่องทางเปิดบัญชีกองทุนและลงทุนผ่านระบบออนไลน์ของบริษัท จะยังไม่สามารถชดเชยกับช่องทางสาขาของธนาคารทิสโก้และเจ้าหน้าที่ธนกิจบุคคล (RM) ที่เข้าไปแนะนำลูกค้ากลุ่มเวลธ์ แต่มองว่า เป็นเทรนด์สนับสนุนการเติบโตของบริษัทในครึ่งหลังปีนี้และอนาคตได้
วางเป้าหมายในปีนี้คาดว่าจำนวนลูกค้าบนช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากครึ่งแรกปีนี้มีสัดส่วน30% ของฐานลูกค้าทิสโก้ แต่มีจำนวนธุรกรรมออนไลน์สัดส่วนมากถึง 70% ของจำนวนธุรกรรมลูกค้าทิสโก้ มีมูลค่าธุรกรรมต่อรายเฉลี่ยไม่เกินหลักแสนบาท โดยมูลค่าธุรกรรมส่วนใหญ่จะมีสัดส่วนมาจากช่องทาง RMที่ให้บริการลูกค้ากลุ่มเวลธ์ มีมูลค่าธุรกรรมต่อรายเฉลี่ยมากกว่า 5 ล้านบาทขึ้นไป
นายสาห์รัช กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร( AUM ) ในปีนี้บริษัทยังคงไว้ที่มากกว่า 70,000 ล้านบาท หรือ เติบโต 30% จากปีก่อน แม้ช่วงครึ่งแรกของปีนี้สามารถทำผลงานเข้าเป้าหมายแล้ว จากการเปิดบัญชีลงทุนออนไลน์และตลาดทุนเมื่อต้นปีนี้ดีกว่าาที่คาดหนุนการลงทุนผ่านกองทุน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังอยู่ระดับต่ำและตลาดหุ้นผันผวน
โดยในครึ่งหลังปีนี้ ต้องประเมินสถานการณ์คุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่รุนแรงและมีมาตรการล็อกดาวน์ให้ชัดเจนก่อน เพราะมองว่าหากยืดเยื้ออาจทำให้คนไม่อยากลงทุนและหากยังมีมาตรการล็อกดาวน์เช่นนี้ ยังเป็นข้อจำกัดต่อช่องทางขายทั้งสาขาของธนาคารทิสโก้ในห้างสรรพสินค้าและด้วยจำนวนเจ้าหน้าที่RMน้อยลงจากการสลับเปลี่ยนเวลาทำงาน อีกทั้งไปให้บริการลูกค้าเวลธ์ที่บ้านยังไม่ได้
ดังนั้นแผนออกกองทุนใหม่ของบริษัทในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ยอมรับว่า ยังค่อนข้างระมัดระวัง เพราะสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่เอื้อนักแม้ยังมีโอกาสขยายฐานลูกค้ากลุ่มเวลธ์ของทิสโก้ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด ซึ่งยังมีความต้องการลงทุนหาผลตอบแทนที่ดีขึ้นและส่วนใหญ่ลูกค้ากลุ่มนี้ยังเน้นเงินฝากอยู่มาก
“แม้สถานการณ์ครึ่งหลังปีนี้ เรายังต้องรอให้ชัดเจนก่อน แต่ทั้งปีนี้ยังเชื่อมั่นว่าจะเห็น AUM ไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านบาท แน่นอน เพราะตอนนี้เงินของลูกค้าเรายังไม่ไหลออกและธุรกิจกองทุนรวมยังขยายตัวได้ดี รวมถึงการลงทุนผ่านกองทุนสามารถทำบนระบบออนไลน์ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ประกอบกับเงินในตลาดยังมีสภาพคล่องล้น ที่สำคัญเรายังกองทุนทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์(TSF-MF)ที่มีผลการดำเนินงานระดับท็อปตลอด10ปีที่ผ่านมาและปัจจุบันยังโดดเด่นตอบโจทย์การลงทุนปีนี้แนะนำลูกค้าได้ต่อเนื่อง”