8 จังหวัด เจอโควิด 'เดลตากลายพันธุ์' 4 ตัว

8 จังหวัด เจอโควิด 'เดลตากลายพันธุ์' 4 ตัว

ไทยเจอเดลตากลายพันธุ์ 4 ตัว เป็นลูกหลานเดลตาที่ระบาดในไทย  สุ่มเจอใน 8 จังหวัด รวม 13 ราย ย้ำไม่ใช่พันธุ์ใหม่ไม่ใช่พันธุ์ไทย ในต่างประเทศก็เจอ  เฝ้าระวังต่อเนื่องจับตาส่งผลต่ออาการรุนแรงขึ้น-ดื้อวัคซีนหรือไม่ 

          เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 24 ส.ค. 2564 ในการแถลงข่าว เฝ้าระวังและการกลายพันธุ์ของเชื้อก่อโรคโควิด 19  ประเด็น “พบสายพันธุ์ย่อยเดลตาในประเทศไทย”  ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล กล่าวว่า จากการข้อมูลในองค์กรGISIADที่เป็นฐานข้อมูลประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยที่รายงานการถอดรหัสพันธุกรรม ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ  3 ล้านตัวอย่างนั้น

     โดยจะมีการแบ่งเป็นสายพันธุ์ต่างๆ และศึกษาวงวานวิวัฒนาการที่มีการแตกกิ่งก้านสาขาออกมา ซึ่งในส่วนของสายพันธุ์เดลตานั้น  จะเห็นได้ว่ามีการกลายพันธุ์มากถึง 60 ตำแหน่งเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่น  การที่มีกลายพันธุ์จำนวนมาก บ่งชี้ว่ามีการแพร่ระหว่างคนสู่คนมาก

162978687988

    กรณีสายพันธุ์เดลตาB.1.617.2  มีสายพันธุ์ย่อยที่เรียกว่า เอวาย(AY) ตั้งแต่จุด 1 ถึง จุด 22  และมีสายพันธุ์ย่อยออกไปอีก 27 เนื่องจากสายพันธุ์ย่อยAYบางจุดมีการแตกย่อยออกอีก และข้อมูลของประเทศไทยสายพันธุ์ที่ระบาดหลักคือเดลตา จึงพบการกลายพันธุ์  โดยพบ 4 สายพันธุ์ย่อย  คือ  AY.4 พบในปทุมธานี 4 คน   AY.6 พบในประเทศไทย 1คน  AY.10 พบในเขตกทม.  1 คน และAY.12 พบในเขตกทม. 1  คน  ทั้งนี้ การที่เจอสายพันธุ์ย่อยที่ไหนไม่ได้บอกว่าที่นั่นมีมาก เช่น การเจอ AY.4 ที่ปทุมธานี 4 ราย ก็เพราะในการสุ่มมาตรวจสุ่มที่ปทุมานีมาก

 

 

  

“กรณีว่าเดลตาAYที่พบ 4 ตัวนั้น  ปรากฏว่าไม่ได้บ่าชี้ว่ามาจากสถานที่กักกันของรัฐ  หรือมีจุดเริ่มต้นจากสนามบิน แต่บ่งชี้ว่าเป็นลูกหลานของสายพันธุ์ที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย สรุป คือ จากข้อมูลน่าจะพอสรุปได้ว่า AY ทั้ง 4 ตัวที่เจอในประเทศไทย เท่าที่นั่งดูแล้วเป็นลูกหลานสายพันธุ์หลักเดลตาที่ระบาดในประเทศไทยอยู่แล้ว ส่วนที่ระบาดในไทยอยู่แล้วจะมาจากไหนต้องว่ากันอีกที  เมื่อเจอว่าเป็นลูกหลานของสายพันธุ์ในประเทศไทยจึงต้องมีการควบคุมดูแลอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะมีสายพันธุ์ลักษณธแบบนี้ที่เพิ่มจำนวนในท้องถิ่นแล้ว ถ้าขยายตัวมากๆจะเกิดอะไรขึ้น เป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตาม AY ทั้ง 4 ตัวนี้มีรายงานพบในต่างประเทศด้วย และยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และคลินิกมากพอที่จะบอกว่า ดื้อต่อวัคซีนมากกว่าหรือน้อยกว่าเดลตาสายพันธุ์หลัก อาจจะมีข้อมูลตามมาที่หลังเมื่อมีข้อมูลมากขึ้น”ศ.เกียริติคุณ ดร.วสันต์ กล่าว   

  นพ.สุรัคเมธ มหาศิริมงคล    ผอ.สถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สายพันธุ์เดลตามีการอัปเดตตลอด และล่าสุดข้อมูลวันที่ 9 ส.ค.2564 ทำให้ทราบว่ามีสายพันธุ์ย่อย AY.1 ไปจนถึง.25 ทุกตัวของสายพันธุ์เดลตายังคุณสมบัติแพร่กระจายเร็ว อาการรุนแรง อย่างไรก็ตาม สำหรับเชื้อเดลตาพลัสที่อินเดียเคยรายงานนั้น  คือ K417N ในไทยยังไม่เจอ 

ทั้งนี้  เดลตา AY.4  มีรายงานมากที่สุด คือ ประเทศอังกฤษ 67 % ช่วงมิ.ย.-ส.ค. ประเทศไทยพบที่บุรีรัมย์ 1 คน กำแพงเพชร 1 คน ปทุมธานี  4 คน เชียงใหม่ 1 คน สมุทรปราการ  1คน และชลบุรี 1 คน  AY.6 รายงานมากที่สุด คือ อังกฤษ 79 % ช่วงก.ค. ประเทศไทย พบที่ กรุงเทพฯ  1 คน AY.10 ประเทศที่รายงานมากที่สุดคือ อังกฤษ 71 % ช่วงก.ค. ประเทศไทยพบที่กรุงเทพฯ 1 คน และAY.12 ประเทศที่รายงานมากที่สุด คือ เดนมาร์ก และอังกฤษ  ประเทศละ 11 % ช่วงก.ค. ส.ค. ประเทศไทยพบที่สุราษฎร์ธานี 2 คน และกรุงเทพฯ 1  คน 

อย่างไรก็ตาม การที่ประเทศใดมีรายงานการตรวจพบมากไม่ได้แปลว่าประเทศนั้นมีจำนวนของสายพันธุ์นั้นจำนวนมาก แต่เพียงเป็นประเทศที่มีการสุ่มตรวจและรายงานจำนวนมากกว่าประเทศอื่นๆ และบางประเทศที่ไม่มีรายงานเลย ไม่ได้แปลว่าไม่มีสายพันธุ์นั้น แต่อาจจะเพราะไม่มีการสุ่มตรวจ 

162978690267

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  กล่าวว่า เดลตาสายพันธุ์ย่อยที่เจอในประเทศไทย มีรายงานการตรวจเจอในต่างประเทศเหมือนกัน เช่น AY.4 อังกฤษ 67% อเมริกา 13%   เดนมาร์ก 3%  สเปน 2%  ฝรั่งเศส 2%   จึงอย่าสรุปว่าเป็นพันธุ์ใหม่พันธุ์ไทย  เพียงแต่ต้องจับตาดูว่า AYที่เจอทั้ง 4 ตัวนั้นจะมีการแพร่กว่างขวางอย่างรวดเร็ว หรือมีอิทธิฤทธิ์ใดต่อประเทศไทยบ้าง รวมถึง ส่งผลต่ออาการรุนแรงขึ้นหรือไม่ หรือดื้อต่อวัคซีนหรือไม่  อย่างไรก็ตาม  จากที่มีการติดตามผู้ป่วยที่ตรวจเจอสายพันธุ์ย่อยยังไม่ได้มีอาการที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม แต่ขณะนี้ยังมีจำนวนและข้อมูลต่างๆน้อยมาก จะต้องมีการเฝ้าระวัง ติดตามสายพันธุ์ย่อยนี้ต่อเนื่องต่อไป จึงจะมีข้อมูลต่างๆมากขึ้น รวมถึง ยังไม่ได้เป็นสายพันธุ์ที่ถูกจัดชั้นว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวลจากองค์การอนามัยโลก(WHO) เพียงแต่ทุกตัวก็เริ่มด้วยแบบนี้ เพราะการกลายพันธุ์เกิดขึ้นทุกวัน  ถ้ากลายพันธุ์แล้ว ไม่มีอะไรประหลาดก็จบไป